อินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
บทความนี้เป็นมีเนื้อหาเกี่ยวกับ อินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม หากต้องการทราบเนื้อเรื่องคู่ขนานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ โปรดไปที่ เรลกัน แฟ้มลับคดีวิทยาศาสตร์ แทน
อินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม
ภาพของอินเดกซ์ จากปกหนังสือมังงะ โทอารุ มาจุทสึ โนะ อินเด็กซ์ เล่ม 1
ชื่อไทย อินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม
ชื่อญี่ปุ่น とある魔術の禁書目録
ชื่ออังกฤษ To Aru Majutsu no Index
แนว แอ็คชั่น, แฟนตาซี
นวนิยาย
ผู้แต่งเรื่อง คาซึมะ คามาจิ
เขียนภาพ คิโยทากะ ฮาอิมุระ
ตีพิมพ์ Dengeki Bunko
เอพลัส
ตีพิมพ์เมื่อ 10 เมษายน พ.ศ. 2547 – 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553
จำนวนเล่ม 22
10
มังงะ
อินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม
เขียนเรื่อง คาซึมะ คามาจิ
เขียนภาพ จูยะ โคงิโนะ
สำนักพิมพ์ Square Enix
สยามอินเตอร์คอมิกส์
นิตยสาร Monthly Shōnen Gangan
เมื่อ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 – ปัจจุบัน
จำนวนเล่ม 11
10
นวนิยาย
Toaru Majutsu no Index SS
ผู้แต่งเรื่อง คาซึมะ คามาจิ
เขียนภาพ คิโยทากะ ฮาอิมุระ
ตีพิมพ์ ASCII Media Works
ตีพิมพ์เมื่อ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 – 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
จำนวนเล่ม 2
ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์
ผู้กำกับ ฮิโรชิ นิชิคิโอริ
ผลิตโดย J.C.Staff
ฉายทาง MBS
ฉายครั้งแรก 4 ตุลาคม พ.ศ. 2551 - 19 มีนาคม พ.ศ. 2552
จำนวนตอน 24
ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์
To Aru Majutsu no Index II
ผู้กำกับ ฮิโรชิ นิชิคิโอริ
ผลิตโดย J.C.Staff
ฉายทาง AT-X, Tokyo MX, Teletama, Chiba TV, MBS, tvk, CBC, TV Saitama
DEX
ฉายครั้งแรก 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553 - 1 เมษายน พ.ศ. 2554
จำนวนตอน 24
เกม
สร้างโดย Kadokawa Games
จัดจำหน่ายโดย ASCII Media Works
แนว Fighting game
เรตติ้ง CERO: B
สำหรับเครื่อง เพลย์สเตชัน พอร์เทเบิล
จำหน่ายเมื่อ 27 มกราคม พ.ศ. 2554
นวนิยาย
New Testament: Toaru Majutsu no Index
ผู้แต่งเรื่อง คาซึมะ คามาจิ
เขียนภาพ คิโยทากะ ฮาอิมุระ
ตีพิมพ์ ASCII Media Works
ตีพิมพ์เมื่อ 10 มีนาคม พ.ศ. 2554 – ปัจจุบัน
จำนวนเล่ม 6
นวนิยาย
A Certain Magical Index SP
ผู้แต่งเรื่อง คาซึมะ คามาจิ
เขียนภาพ คิโยทากะ ฮาอิมุระ
ตีพิมพ์ ASCII Media Works
ตีพิมพ์เมื่อ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2554 – 10 สิงหาคม พ.ศ. 2554
จำนวนเล่ม 1
เกม
Toaru Majutsu to Kagaku no Ensemble
สร้างโดย Banpresto, Guyzware
จัดจำหน่ายโดย Namco Bandai Games
แนว Visual Novel
สำหรับเครื่อง เพลย์สเตชัน พอร์เทเบิล
จำหน่ายเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์
Toaru Majutsu no Index: Endyumion no Kiseki
ผู้กำกับ ฮิโรชิ นิชิคิโอริ
ผลิตโดย J.C.Staff
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมการ์ตูนญี่ปุ่น
อินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม (ญี่ปุ่น: とある魔術の禁書目録(インデックス) To Aru Majutsu no Indekkusu ทับศัพท์จาก To Aru Majutsu no Index ?) เป็นไลท์โนเวลภาษาญี่ปุ่น ซึ่งต่อมามีการนำไปสร้างเป็นหนังสือการ์ตูน และอะนิเมะ โดยฉบับไลท์โนเวล ประพันธ์โดย คาซึมะ คามาจิ และภาพประกอบโดย คิโยทากะ ฮาอิมุระ เริ่มตีพิมพ์ตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2547 จนถึงปัจจุบัน พิมพ์ออกจำหน่ายแล้วถึง 24 เล่ม (เล่ม 1 ถึงเล่ม 22 และฉบับพิเศษเรื่องสั้น อีกสองเล่ม) จัดพิมพ์โดย ASCII Media Works
ส่วนอะนิเมะนำโครงเรื่องมาจากฉบับไลท์โนเวล สร้างโดยอะนิเมะชันสตูดิโอ J.C.Staff กำกับโดย ฮิโรชิ นิชิคิโอริ จัดทำเป็นอะนิเมะซีรีส์ 24 ตอนจบ เริ่มออกอากาศในญี่ปุ่น ตั้งแต่ วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ถึง วันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2552 และในภาคต่อมา เริ่มออกอากาศในญี่ปุ่น 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553 - 1 เมษายน พ.ศ. 2554 จำนวน 24 ตอนจบ เช่นเดียวกัน
เนื้อหา [ซ่อน]
1 เนื้อเรื่อง
2 ตัวละครหลัก
3 บทเพลงที่เกี่ยวข้องกับ อินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม
3.1 เพลงในอินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม
3.2 เพลงในอินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม II
3.3 เพลง อินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม endymion no kiseki
4 อ้างอิง
5 แหล่งข้อมูลอื่น
เนื้อเรื่อง[แก้]
โทอารุ มาจุทสึ โนะ อินเด็กซ์ มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับโลกอนาคต ในสมัยที่ความสามารถต่างๆของผู้มีพลังพิเศษ (ผู้มีพลังจิต, Psychics, Espers) กลายเป็นสาขาหนึ่งของวิทยาศาสตร์ โคจรมาพบกับ อำนาจเหนือธรรมชาติอีกชนิดหนึ่ง คือ เวทมนตร์ (Magic) เรื่องราวดำเนินไป ณ เมืองแห่งการศึกษา ซึ่งมีเทคโนโลยีสูงมาก อยู่ทางตะวันตกของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
วันหนึ่งชีวิตของโทมะก็ต้องเปลี่ยนไป เมื่อมีแม่ชี (อายุไล่เลี่ยกับเขา) คนหนึ่ง นอนสลบพาดอยู่ที่ระเบียงห้องของเขา เธอชื่อว่าอินเด็กซ์ อินเด็กซ์มีความทรงจำสมบูรณ์แบบ เธอสามารถจดจำ คัมภีร์เวทมนตร์แสนสามพันเล่มไว้ได้ ทำให้เธอต้องถูกตามล่าจากเหล่าผู้มีเวทมนตร์ โทมะได้ช่วยเหลืออินเด็กซ์ไว้ ให้ที่พักพิงกับเธอ และคอยช่วยเหลือเธอจาการถูกตามล่า จากทั้งฝ่ายเวทมนตร์และฝ่ายวิทยาศาสตร์
แม้ว่าพลังพิเศษของโทมะ ที่เรียกว่า อิมเมจินเบรกเกอร์ (Imagine Breaker) จะสามารถลบล้างพลังเหนือธรรมชาติได้ทุกชนิด แต่กลับไม่มีประสิทธิภาพมากนัก ในการจู่โจม หรือป้องกันอันตรายในระยะไกล โทมะและอินเด็กซ์ จึงต้องรับความช่วยเหลือจากบุคคลอื่นๆในเมืองวิทยาศาสตร์ เช่น มิซากะ มิโคโตะ (Electromaster) คุณครูโคโมเอะอัจฉริยะผู้มีร่างกายน่ารักเหมือนเด็กประถม คุณหมอเทวดาหน้าเหมือนกบ (Heaven Canceler) ตลอดจนสมาชิกในฝ่ายเวทมนตร์ (ผู้เปลี่ยนจากตามล่า มาเป็นช่วยเหลือในภายหลัง) เพื่อนๆของอินเด็กซ์
ตัวละครหลัก[แก้]
ดูบทความหลักที่: รายชื่อตัวละครในอินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้ามและเรลกัน แฟ้มลับคดีวิทยาศาสตร์
คามิโจว โทวมะ
(ญี่ปุ่น: 上条 当麻 Kamijō Tōma ?)
ให้เสียงโดย : อาเบะ อัทสึชิ , มนูญ เรืองเชื้อเหมือน
ไม่ทราบแน่ชัด
เป็นชายหนุ่มผู้มีพลังพิเศษ แต่ถูกประเมินไว้ว่าอยู่ในระดับ 0 คือ ระดับต่ำสุด เพราะไม่สามารถวัดระดับพลังได้ มือขวาของเขาสามารถลบล้างอำนาจเหนือธรรมชาติต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นพลังจิต หรือเวทมนตร์ นั่นคือเมื่ออยู่ในหมู่ผู้คนทั่วไป เขาจะดูเหมือนคนธรรมดา ถ้าจะป้องกันตัวก็ทำได้แค่ชกต่อย แต่เมื่อเผชิญหน้ากับพลังพิเศษหรือเวทมนตร์ พลังเหนือธรรมชาติเหล่านั้น จะไม่สามารถทำอันตรายเขาได้โดยง่าย ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เขาซวยอยู่ตลอด
อินเด็กซ์
(ญี่ปุ่น: インデックス Indekkusu ?)
ให้เสียงโดย : อิงุจิ ยูกะ , พนาวรรณ ศรีวะโลสกุล
เกิดวันที่ 30 เมษายน (ไม่ทราบปีเกิด)
เด็กสาวผู้ครองคำภีร์ต้องห้าม 103000 เล่ม แม่ชีแห่งโบสถ์เซสซาเรียส เป็นสาขาหนึ่งของศาสนจักรของอังกฤษ ดูภายนอก อายุราว 13-16ปี ที่เอาแต่กินได้ทั้งวันแต่เธอสามารถจดจำคัมภีร์เวทมนตร์กว่าแสนเล่มไว้ได้ทำให้เธอต้องหนีการตามล่าจนตกลงมาบนกับราวตากผ้าของห้องโทมะนิสัยยิ้มง่ายเหมือนเด็กๆยิ้มได้ทุกเรื่อง แม้ว่าตัวเองจะต้องมีชะตาที่น่าสงสารแต่ไม่ค่อยใส่ใจมากนัก พยายามเต็มที่เพื่อไม่ให้ โทวมะที่ช่วยเหลือได้รับความเดือดร้อนไปด้วย ชื่อเต็มของเธอคือ อินเดกซ์ ลิโบรัม โพรแฮบิโตรัม (Index Librorum Prohibitorum)
มิซากะ มิโคโตะ
(ญี่ปุ่น: 御坂 美琴 Misaka Mikoto ?)
ให้เสียงโดย : ซาโตะ รินะ , ชิดชนก แย้มมา
เกิดวันที่ 27 กันยายน (ไม่ทราบปีเกิด)
เด็กสาวผมสั้นในชุดนักเรียน เธอเป็นหนึ่งในระดับ 5 ในเมืองแห่งการศึกษา เธอสามารถควบคุมพลังงานไฟฟ้า (Electro Master) ได้ตั้งแต่ไฟฟ้าเล็กๆน้อยๆไปจนถึงหลายพันล้านโวลท์ แต่ไม่สามารถทำอันตรายต่อโทวมะได้เลย โดยพลังหลักของเธอนั้นใช้เหรียญในการยิง เธอเรียกพลังนั้นว่า เรลกัน
เอคเซลาเรเตอร์
(ญี่ปุ่น: 一方通行 Akuserarēta ?)
ให้เสียงโดย : โอคาโมโตะ โนบุฮิโกะ , ภัคภูมิ ลิ้มมานะสภาพร
ไม่ทราบแน่ชัด
ชายหนุ่มผมสีขาว ผู้แข็งแกร่งอันดับ 1 และมีพลังระดับ 5 เช่นเดียวกับ มิซากะ มีพลังคือ รีไดเร็คชั่น หรือ การเบี่ยงเบนเวกเตอร์ นั่นคือเขาสามารถควบคุมให้เวกเตอร์(การเคลื่อนที่ไปในทิศทางต่างๆ)ทุกชนิดของโลก"เบี่ยงเบน "ย้อนกลับ" ได้ทุกรูปแบบ และยังสามารถเบี่ยงเบนทิศทางลม และนำมันมารวมกันเป็นพลังงานพลาสม่าขนาดใหญ่เพื่อใช้โจมตีได้ด้วย เป็นพวกมั่นใจในตนเองสุดกู่ และ เชื่อมั่นว่าไม่มีใครสามารถทำลายเขาได้ เอคเซลาเรเตอร์ ถูกนักวิทยาศาสตร์ทำการทดลอง เพื่อเลื่อนระดับให้เป็น เลเวล 6 คนแรก โดยใช้ร่างโคลนนิ่งของ มิซากะ หรือที่เรียกว่า น้องสาวของมิซากะ จำนวน 20,000 คน แต่การทดลองถูกระงับลงโดย คามิโจว โทวมะ จนวันหนึ่งเขาได้พบ กับ มิซากะ 20,001 ชื่อจริงคือ LAST ORDER ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนแปลง
บทเพลงที่เกี่ยวข้องกับ อินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม[แก้]
เพลงในอินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม[แก้]
ดูบทความหลักที่ รายชื่ออัลบั้มในอินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม
เพลงเปิด เพลงปิด
ลำดับ ชื่อเพลง ผู้ขับร้อง ลำดับ ชื่อเพลง ผู้ขับร้อง
1 PSI-missing มามิ คาวาดะ 1 Rimless ~Fuchinashi no Sekai~ IKU
2 masterpiece 2 Chikaigoto ~Sukoshi Dake Mou Ichido~
เพลงในอินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม II[แก้]
ดูบทความหลักที่ รายชื่ออัลบั้มในอินเด็กซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม
เพลงเปิด เพลงปิด
ลำดับ ชื่อเพลง ผู้ขับร้อง ลำดับ ชื่อเพลง ผู้ขับร้อง
1 No buts! มามิ คาวาดะ 1 Rimless Magic∞world Maon Kurosaki
2 See visionS 2 Memories Last
เพลง อินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม endymion no kiseki[แก้]
Shining Star LOVE Letterอัลบั้มเพลง ขับร้องโดย Iguchi Yuka
Miracle ~song for youอัลบั้มเพลง ขับร้องโดย Iguchi Yuka
Fixed starอัลบั้มเพลงปิด ขับร้องโดย มามิ คาวาดะ
อ้างอิง[แก้]
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
Toaru Majutsu no Index official website (ญี่ปุ่น)
Toaru Majutsu no Index at ASCII Media Works (ญี่ปุ่น)
อินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม (มังงะ) ที่เครือข่ายข่าวอะนิเมะ
อินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม (อะนิเมะ) ที่เครือข่ายข่าวอะนิเมะ
อินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม (ภาพยนตร์) ที่เครือข่ายข่าวอะนิเมะ
บทความเกี่ยวกับการ์ตูนญี่ปุ่นนี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยเพิ่มข้อมูล ดูเพิ่มที่ สถานีย่อย:การ์ตูนญี่ปุ่น
หมวดหมู่: การ์ตูนญี่ปุ่นไลท์โนเวลมังงะอะนิเมะวิดีโอเกมมังงะที่ตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2550อะนิเมะที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2551อะนิเมะที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2552อะนิเมะที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2553อะนิเมะที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2556ภาพยนตร์อะนิเมะที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2556บทความเกี่ยวกับ การ์ตูนญี่ปุ่น ที่ยังไม่สมบูรณ์
วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2557
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สาวน้อยเวทมนตร์ มาโดกะ
สาวน้อยเวทมนตร์ มาโดกะ
ชื่อไทย สาวน้อยเวทมนตร์ มาโดกะ
ชื่อญี่ปุ่น 魔法少女まどか☆マギカ
ชื่ออังกฤษ Puella Magi Madoka Magica
ประเภท เซเน็น
แนว ดราม่า, สยองขวัญ[1], สาวน้อยเวทมนตร์, โศกนาฏกรรม, สาวน้อยเวทมนตร์, ดราม่า
ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์
ผู้กำกับ อะคิยูกิ ชินโบ
ออกแบบตัวละคร อุเมะ อาโอกิ
บทโทรทัศน์ เกน อุโรบุชิ
ผลิตโดย Shaft
Aniplex
Nitroplus
ลิขสิทธิ์ DEX
ฉายทาง MBS, TBS และ CBC
ฉายครั้งแรก 7 มกราคม - 21 เมษายน 2554
จำนวนตอน 12
มังงะ
เขียนภาพ ฮาโนคาเงะ
สำนักพิมพ์ โฮบุนชะ
สยามอินเตอร์คอมิกส์
เมื่อ 12 กุมภาพันธ์ – 30 พฤษภาคม 2554
จำนวนเล่ม 3
มังงะ
สาวน้อยเวทมนตร์คาซึมิ มาจิกะ
เขียนเรื่อง มาซากิ ฮิรามัตสึ
เขียนภาพ ทากาชิ เทนสึกิ
สำนักพิมพ์ โฮบุนชะ
สยามอินเตอร์คอมิกส์
นิตยสาร มังงะ ไทม์ คิราระ คารัท ฟอร์เวิร์ด
เมื่อ มีนาคม 2554 – ปัจจุบัน
จำนวนเล่ม 3
มังงะ
สาวน้อยเวทมนตร์ โอริโกะ มาจิก้า
เขียนภาพ คุโรเอะ มุระ
สำนักพิมพ์ โฮบุนชะ
สยามอินเตอร์คอมิกส์
เมื่อ 12 เมษายน – 12 มิถุนายน 2554
จำนวนเล่ม 2
เกม
Grief Syndrome
สร้างโดย Twilight Frontier
จัดจำหน่ายโดย Twilight Frontier
แนว Side-scrolling, Beat 'em up
สำหรับเครื่อง PC
จำหน่ายเมื่อ 13 สิงหาคม 2554
นวนิยาย
ผู้แต่งเรื่อง ฮาจิเมะ นิโนมาเอะ
ตีพิมพ์ ไนโตรพลัส บุ๊ค
ตีพิมพ์เมื่อ 14 สิงหาคม 2554 – ปัจจุบัน
เกม
Puella Magi Madoka Magica Portable
สร้างโดย Banpresto
จัดจำหน่ายโดย นันโค บันได, ไนโตรพลัส
แนว ผจญภัย, อาร์พีจี
เรตติ้ง CERO: B
สำหรับเครื่อง เพลย์สเตชันพอร์เทเบิล
จำหน่ายเมื่อ 15 มีนาคม 2555
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมการ์ตูนญี่ปุ่น
สาวน้อยเวทมนตร์ มาโดกะ (ญี่ปุ่น: 魔法少女まどか☆マギカ Mahō Shōjo Madoka Magika ?; ละติน: Puella Magi Madoka Magica) เป็นอะนิเมะโทรทัศน์แนวสาวน้อยเวทมนตร์ โดยShaftและ Aniplex กำกับโดย อะคิยูกิ ชินโบ ออกแบบตัวละครโดย อุเมะ อาโอกิ ดนตรีประกอบโดย ยูกิ คะจิอุระ โดยอะนิเมะสิบตอนแรกได้ออกอากาศทางช่อง TBS และ MBS ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2554 จนถึงวันที่ 11 มีนาคม 2554 ส่วนสองตอนสุดท้ายถูกเลื่อนฉายออกไปเป็นวันที่ 21 เมษายน 2554 ด้วยเหตุเนื่องมาจากแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮะกุ พ.ศ. 2554 สำหรับวิดีโอเกมสำหรับเครื่องเล่น PSP จะวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2555
เนื้อหา [ซ่อน]
1 เนื้อเรื่อง
2 ตัวละคร
2.1 ตัวละครหลัก
2.2 ตัวละครรอง
3 คำศัพท์
4 อ้างอิง
5 แหล่งข้อมูลอื่น
เนื้อเรื่อง[แก้]
ในโลกของมาโดกะนั้นมีสิ่งมีชีวิตลึกลับที่สามารถทำให้ความปรารถนาของเด็กสาวที่ถูกเลือกเป็นจริงขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตามเด็กคนนั้นจะต้องกลายมาเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ และใช้เวทมนตร์ต่อสู้กับแม่มด สัตว์ประหลาดชั่วร้ายที่เกิดมาจากคำสาปซึ่งทำให้เกิดการฆาตกรรมและการฆ่าตัวตายปริศนา นักเรียนปึสองคานาเมะ มาโดกะ และ เพื่อนของเธอ มิกิ ซายากะ ได้พบกับคิวเบย์ สิ่งมีชีวิตปริศนาและสาวน้อยเวทมนตร์ โทโมเอะ มามิ โดยทั้งสองได้เสนอให้มาโดกะมาเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ โดยที่อีกสาวน้อยเวทมนตร์ชื่อ อาเคมิ โฮมูระ พยายามที่จะกีดกันมาโดกะจากการทำสัญญาโดยไม่นานมาโดกะจะได้รู้ว่าการเป็นสาวน้อยเวทมนตร์นั้นมีอะไรมากกว่าที่เห็น
ตัวละครหลัก[แก้]
จากซ้าย ซากุระ เคียวโกะ, มิกิ ซายากะ, คานาเมะ มาโดกะ, คิวเบย์ (บนตัก), อาเคมิ โฮมุระและโทโมเอะ มามิ
คานาเมะ มาโดกะ (ญี่ปุ่น: 鹿目まどか Kaname Madoka ?)
พากย์เสียงโดย: อาโออิ ยูคิ
สาวน้อยมัธยมต้นปีสอง ผู้คิดถึงเพื่อนก่อนคิดถึงตัวเธอเอง เธอคิดว่าตัวเองไม่มีอะไรพิเศษและอยากเป็นสาวน้อยเวทมนตร์หลังจากที่เห็นมามิต่อสู้ แต่เมื่อมามิถูกฆ่าตายไปแล้วก็เริ่มไม่แน่ใจนัก แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังคงตามซายากะในการออกล่าแม่มด เธอนั้นมีพลังเวทมหาศาลภายในตัวเธอ คิวเบย์จึงสนใจที่จะทำสัญญากับเธออย่างมาก ในตอนที่ 8 เธอพยายามที่จะตอบรับข้อเสนอ แต่คิวเบย์ถูกโฮมุระฆ่าตายเสียก่อน และเธอกลายเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ในตอนที่12(ตอนจบ)โดยขอให้แม่มดจากทุกช่วงเวลาหายไป ทำให้เธอยกสถานะตัวเองเป็นกลไกของจักรวาลและหายไปจากโลกนี้โดยสมบูรณ์ ซึ่งจะมีแต่โฮมุระกับทัตสึยะ(น้องชายของมาโดกะ)เท่านั้นที่จำเธอได้
มาโดกะเป็นผู้มีอุปนิสัยอ่อนโยน ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดจากตอนที่ 10 ซึ่งเป็นตอนย้อนอดีตของโฮมุระ เธอยอมเสียสละชีวิตของตนเองเพื่อให้โฮมุระย้อนเวลากลับมาก่อนที่ตัวเธอเองจะกลายเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ โดยสิ่งที่ร้องขอคือ "อย่าให้เธอต้องถูกคิวเบย์หลอก กลายเป็นสาวน้อยเวทมนตร์เลย" นอกจากนี้มาโดกะยังมีจิตใจดี ช่วยเหลือแมวตัวหนึ่งซึ่งภายหลังถูกตั้งชื่อว่า เอมี่ เอมี่ประสบอุบัติเหตุจึงเสียชีวิต ในครั้งแรกที่มาโดะกะกลายเป็นสาวน้อยเวทมตร์ เกิดจากคำร้องขอให้คิวเบย์ช่วยชีวิตเอมี่เอาไว้นั่นเอง
อาเคมิ โฮมุระ (ญี่ปุ่น: 暁美 ほむら Akemi Homura ?)
พากย์เสียงโดย: จิวะ ไซโต้
นักเรียนใหม่ สวย น่ารัก ผลการเรียนดีเด่น เก่งกีฬา เป็นคนที่เต็มไปด้วยความลึกลับและดูเหมือนจะรู้จักมาโดกะอยู่ก่อนแล้ว เธอรู้เรื่องราวด้านมืดมนของสาวน้อยเวทมนตร์และเชื่อว่าคนที่มีจิตใจอันดีงามนั้นไม่ควรจะเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ แม้จะเป็นเหมือนคู่ปรับแต่เธอก็ปกป้องมาโดกะและคนอื่นๆบ่อยครั้ง มีความสามารถหลากหลายไม่ว่าจะเป็นระเบิดหรืออาวุธยิง ซึ่งในภายหลังได้ปรากฏว่าเธอนั้นมาจากต่างช่วงเวลา และความสามารถหยุดเวลาของเธอทำให้เธอเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วและได้เปรียบศัตรูเป็นอย่างมาก แต่เพราะความสามารถนั้นของเธอที่ทำสัญญากับคิวเบย์เพราะอยากช่วยมาโดกะเพราะในตอนที่10 มาโดกะบอกว่าเธอไม่อยากเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ โฮมุระจึงย้อนเวลาไปช่วงที่เข้าโรงเรียนใหม่แต่ก็เป็นเหมือนเดิมเพราะไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่สามารถชนะแม่มดในคืนวันเทศกาลได้ ครั้งสุดท้ายที่เธอย้อนเวลาเธอจึงปกป้องและช่วยมาโดกะอยู่เสมอ ตอนจบโซลเจ็มของเธอเกือบกลายเป็นกริฟซีด แต่เพราะมาโดกะไปช่วยเธอจึงไม่ได้กลายเป็นแม่มด และเป็น 1ใน2คน ที่จำมาโดกะได้
โทโมเอะ มามิ (ญี่ปุ่น: 巴 マミ Tomoe Mami ?)
พากย์เสียงโดย: คาโอริ มิซึฮาชิ
นักเรียนชั้นปีสาม โรงเรียนเดียวกันกับมาโดกะ เป็นพี่สาวที่พึ่งพาได้ นักเวทผู้ทำสัญญากับคิวเบย์ ใช้ปืนไรเฟิลแบบฟลิ้นต์ล็อกเป็นอาวุธและริบบ้อนสำหรับจับศัตรู เธอกลายเป็นสาวน้อยเวทมนตร์เพราะจำต้องใช้ความปรารถนาให้ตัวเองรอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งพ่อแม่ของมามิเองก็เสียชีวิตไปในอุบัติเหตุครั้งนั้น เธอสนใจเรื่องช่วยเหลือผู้คนมากกว่าการเก็บรวบรวมกริฟซีด ปกติแล้วเธอจะมีท่าทีสุขุม เป็นผู้ใหญ่ แต่จริงๆแล้วประสบการณ์ในฐานะสาวน้อยเวทมนตร์ทำให้เธอรู้สึกเปล่าเปลี่ยวและหวาดกลัว ถูกแม่มดกินในตอนที่ 3 ในระหว่างการต่อสู้ จากการที่ได้ฟังคิวเบย์อธิบาย
มิกิ ซายากะ (ญี่ปุ่น: 美樹 さやか Miki Sayaka ?)
พากย์เสียงโดย: เอริ คิตามุระ
เพื่อนร่วมห้องและเพื่อนสนิทของมาโดกะ กระฉับกระเฉงและมีชีวิตชีวาและร่าเริง ในตอนแรกนั้นเธอใช้ไม้เบสบอลช่วยมามิต่อสู้ เป็นจอมเวทผู้ใช้ดาบและมีจุดเด่นด้านพลังรักษา ไม่ชอบคนที่เบียดเบียนคนอื่นเพื่อตัวเอง เธอทำสัญญากับคิวเบย์เพื่อช่วยรักษามือของเคียวสุเกะ คามิโจ ซึ่งเธอแอบชอบอยู่ แต่เมื่อรู้ความจริงเรื่องของโซลเจ็มจากคิวเบย์ จิตใจของเธอก็เริ่มหวั่นไหว เมื่อเธอจมสู่ความสิ้นหวังเพราะเพื่อนของเธอ ฮิโตมิ ชิซุกิ สารภาพรักกับเคียวสุเกะ และซายากะไม่ยอมใช้กรีฟซีดฟื้นสภาพให้โซลเจ็ม เธอก็กลายเป็นแม่มดไป ซึ่งเธอก็ตายพร้อมกับเคียวโกะ
ซากุระ เคียวโกะ (ญี่ปุ่น: 佐倉 杏子 Sakura Kyōko ?)
พากย์เสียงโดย: ไอ โนนากะ
สาวน้อยเวทมนตร์ผู้ย้ายเข้ามาหลังจากที่มามิตายไปแล้ว อารมณ์ร้อนและมีนิสัยกินจุบจิบตลอดเวลา เธอประกาศตัวเป็นศัตรูกับซายากะซึ่งกลายเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ก่อนที่เธอจะมาเมืองนี้ไม่นาน เธอมาจากครอบครัวบาทหลวงที่ยากจน ซึ่งเคียวโกะได้ใช้ความปรารถนาของเธอให้ผู้คนเชื่อคำพูดเทศน์ของพ่อเธอ แต่เมื่อพ่อของเธอทราบเรื่องนี้ก็ได้เสียสติและฆ่าคนอื่นๆในบ้าน เธอจึงเชื่อว่าการใช้พลังเวทมนตร์เพื่อคนอื่นไปก็มีแต่นำมาซึ่งความโศกเศร้า นิสัยกินตลอดเวลาของเธอนั้นก็มาจากความยากจนที่ทำให้เธอเห็นอาหารถูกปล่อยให้เสียไปเฉยๆไม่ได้ ใช้หอกเป็นอาวุธ เคยแนะนำให้ซายากะ ใช้เวทมนตร์เพื่อตนเอง เพราะเห็นว่าซายากะนั้นเหมือนเธอในอดีต คือใช้เวทมนตร์เพื่อคนอื่นแล้วพบกับความผิดหวัง หลังจากที่ซายากะกลายเป็นแม่มด เธอและมาโดกะพยายามที่จะเปลี่ยนเธอกลับเป็นมนุษย์โดยใดยใช้เสียงของมาโดกะ แต่ไม่สำเร็จ เธอจึงทำการโอเวอร์โหลดโซลเจ็มเพื่อสละชีวิตของเธอและเพื่อที่จะตายพร้อมกับซายากะ รวมทั้งให้โฮมุระและมาโดกะหนีไปได้อย่างปลอดภัย
คิวเบย์ (ญี่ปุ่น: キュウべぇ Kyuubee ?) / อินคิวเบเตอร์ (ญี่ปุ่น: Incubator インキュベーター Inkyubētā ?)
พากย์เสียงโดย: เอมิริ คาโต้
แมวลึกลับพูดได้ ผู้ชักพาพวกมาโดกะให้กลายเป็นผู้ใช้เวทมนตร์ คิวเบย์จะเปลี่ยนร่างของผู้ทำสัญญาเป็นโซลเจ็ม ส่วนร่างที่เห็นอยู่นั้นเป็นร่างที่สร้างขึ้นมา ทำให้ทนต่อการบาดเจ็บและสามารถคืนชีพได้ตราบใดที่ยังมีโซลเจ็มอยู่ คิวเบย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีอารมณ์จึงไม่เข้าใจความรู้สึกของมนุษย์ และไม่คิดว่าสิ่งที่ตนทำไปนั้นเป็นเรื่องโหดร้ายแต่อย่างใด จุดประสงค์ที่แท้จริงของเผ่าพันธุ์คิวเบย์คือการรวบรวมพลังงานมารักษาการคงอยู่ของจักรวาลไว้โดยถือเป็นหน้าที่ของเผ่าพันธุ์ ทำให้แม้จะพยายามสังหารคิวเบย์มากเท่าไหร่ก็จะมีตัวอื่นมาแทนที่อยู่ตลอด
ตัวละครรอง[แก้]
ชิซูกิ ฮิโตมิ (ญี่ปุ่น: 志筑 仁美 Shizuki Hitomi ?)
พากษ์เสียงโดย: ชินทานิ เรียวโกะ
เพื่อนร่วมห้องของมาโดกะและซายากะ เธอเชื่อว่าซายากะและมาโดกะมีความสัมพันธ์ต้องห้ามและรู้สึกว่าตนเป็นส่วนเกินบ่อยครั้ง ในตอนที่เจ็ดเธอบอกซายากะว่าเธอชอบเคียวสุเกะและวางแผนที่จะสารภาพรักหากซายากะไม่ยอมสารภาพรักเสียก่อน
คามิโจ เคียวสึเกะ (ญี่ปุ่น: 上條 恭介 Kamijō Kyōsuke ?)
พากษ์เสียงโดย: โยชิดะ เซย์โกะ
เด็กหนุ่มพิการที่ซายากะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลบ่อยๆ เคยเป็นนักไวโอลิน แต่อุบัติเหตุทำให้สูญเสียความรู้สึกที่นิ้วไป ทำให้เขาไม่สามารถเล่นไวโอลินได้อีกต่อไป ซึ่งทำให้เขาเศร้าและสิ้นหวังเป็นอย่างมาก ซายากะได้ใช้พรของเธอรักษามือของเขา ทำให้เขากลับมาเล่นไวโอลินได้อีกครั้งหนึ่ง
คานาเมะ จุนโกะ (ญี่ปุ่น: 鹿目 詢子 Kaname Junko ?)
พากษ์เสียงโดย: ยูโกะ โกโตะ
แม่ของมาโดกะ ผู้บริหารซึ่งใช้เครื่องสำอางจำนวนมากและบางครั้งเมากลับมาบ้าน ซึ่งทำให้ปลุกเธอยากมากในตอนเช้า นอกเหนือจากนี้ เธอเป็นคนที่เอาใจใส่และให้คำแนะนำแก่มาโดกะเมื่อเธอประสบปัญหาบ่อยๆ
คานาเมะ โทโมฮิสะ (ญี่ปุ่น: 鹿目 知久 Kaname Tomohisa ?)
พากษ์เสียงโดย: เท็ตซึยะ อิวานากะ
พ่อของมาโดกะ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นคนจัดการเรื่องต่างๆภายในบ้าน
คานาเมะ ทัตซึยะ (ญี่ปุ่น: 鹿目 タツヤ Kaname Tatsuya ?)
พากษ์เสียงโดย: คาโอริ มิซุฮาชิ
น้องชายของมาโดกะ และเป็น1ใน2 คน ที่จำมาโดกะได้
ซาโอโตเมะ คาซุโกะ (ญี่ปุ่น: 早乙女 和子 Saotome Kazuko ?)
พากษ์เสียงโดย: จุงโกะ อิวาโอะ
อาจารย์ของมาโดกะ ซึ่งมีปัญหาเรื่องแฟนหนุ่ม
คำศัพท์[แก้]
สาวน้อยเวทมนตร์ (ญี่ปุ่น: Puella Magi 魔法少女 Mahō Shōjo ?)
เด็กสาวผู้มีพลังที่ทำให้ความปรารถนาเป็นจริงโดยได้พลังจากการทำสัญญากับคิวเบย์ โดยคิวเบย์จะทำให้ความปรารถนาของเธอเป็นจริงขึ้นมาได้หนึ่งข้อ แต่เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน เธอจะต้องกลายมาเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ และต่อสู้กับแม่มด พลังที่เธอได้รับนั้นเกี่ยวเนื่องกับพรที่เธอขอ ตัวอย่างเช่น ขอพรที่รักษาใครสักคน ก็จะได้รับพลังในการรักษาตนเองอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามวิญญาณของพวกเธอจะถูกเก็บในโซลเจ็มเพื่อให้ร่างกายต่อสู้กับแม่มดได้ง่ายขึ้น หากสาวน้อยเวทมนตร์ตายในขณะต่อสู้กับแม่มดในมิติของแม่มด ร่างของเธอจะคงอยู่ในมิตินั้น เนื่องจากไม่มีใครพบร่างของเธอ คนทั่วไปจึงจัดว่าเธอหายสาบสูญ หากเธอสิ้นหวังหรือไม่สามารถเคลียร์โซลเจ็มของเธอ เธอจะกลายมาเป็นแม่มดเสียเอง ถ้าหากโซลเจ็มถูกทำลาย โดยการถูกสาวน้อยเวทมนตร์ด้วยกันหรือแม่มดทำลาย หรือใช่พลังเกินขีดจำกัด เธอจะตายในทันที
แม่มด (ญี่ปุ่น: Witches Puella Magi 魔女, Majo ?)
เกิดมาจากคำสาบ อาศัยอยู่ในมิติพิเศษที่เฉพาะสาวน้อยเวทมนตร์เท่านั้นที่ผ่านเข้าไปได้ แม่มดนั้นสามารถสร้างผลกระทบต่อมนุษย์ในโลกแห่งความเป็นจริงโดยทำสัญลักษณ์ที่เรียกว่า"รอยจูบแม่มด" (ญี่ปุ่น: '*รอยจูบแม่มด' 魔女の口づけ Majo no Kuchizuke ?) ที่คอของมนุษย์ โดยจะทำให้เกิดโรคหรือการฆ่าตัวตาย แม่มดนั้นสามารถเกิดมาจากสาวน้อยเวทมนตร์ได้คือเมื่อสาวน้อยเวทมนตร์สิ้นหวังจนโซลเจ็มขุ่นมัวจนกลายเป็นสีดำจะทำให้สาวน้อยเวทมนตร์กลายเป็นแม่มด
โซลเจ็ม (ญี่ปุ่น: Soul Gem ソウルジェム Sōru Jemu ?)
อัญมณีที่เก็บพลังของสาวน้อยเวทมนตร์ ซึ่งสามารถใช้ในการแปลงร่างได้ โดยขนาดขึ้นอยู่กับพลังเวทของสาวน้อยเวทมนตร์ อัญมณีจะเรืองแสงเมื่อแม่มดอยู่ใกล้ เมื่อไม่ได้อยู่ในรูปของอัญมณีจะเปลี่ยนเป็นแหวนแทน พร้อมด้วยสัญลักษณ์ขนาดเล็กบนเล็บมือของเธอ เมื่อเธอแปลงร่างโซลเจ็มจะอยู่ในชุดของเธอ ในภายหลังได้ปรากฏว่าโซลเจ็มนั้นได้กักเก็บวิญญาณของสาวน้อยเวทมนตร์ไว้ซึ่งทำให้ร่างกายของพวกเธอเป็นเหมือน"ฮาร์ดแวร์"ควบคุมระยะไกลและรับความเจ็บปวดได้มากขึ้นโดยไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต การควบคุมร่างกายนั้นมีระยะจำกัด ถ้าอยู่ห่างจากโซลเจ็มเกิน 100 เมตร ร่างกายของพวกเธอนั้นจะหยุดทำงาน โซลเจ็มจะขุ่นมัวเมื่อใช้ และต้องเสริมพลังด้วยกริฟซีด ไม่เช่นนั้นมันจะอ่อนแอลงและเปราะบางลง ถ้าโชลเจ็มนั้นขุ่นมัวมากเกินไป มันจะกลายมาเป็นกริฟซีด เปลี่ยนให้สาวน้อยเวทมนตร์กลายมาเป็นแม่มดเสียเอง
กริฟซีด (ญี่ปุ่น: Grief Seed グリーフシード Gurīfu Shīdo ?)
เมล็ดรูปหนามสีดำซึ่งให้กำเนิดแม่มด เมื่อเมล็ดได้ถือกำเนิด ไม่นานนักจะสร้างเกราะที่มองไม่เห็นจากสายตาคนปรกติในขณะที่แม่มดเติบโตขึ้น เมื่อแม่มดถูกกำจัด กริฟซีดจะถูกใช้ฟื้นฟูพลังให้กับโซลเจ็มซึ่งจะขุ่นลงหากใช้เวทมนตร์ มันถูกจัดว่าเป็นของล้ำค่าโดยสาวน้อยเวทมนตร์คู่แข่ง คิวเบย์นั้นกลืนกริฟซีดที่ถูกใช้ โซลเจ็มสามารถกลายเป็นกริฟซีดได้หากใช้จนขุ่นมัวเกินไปและสาวน้อยเวทมนตร์นั้นเกิดอาการสิ้นหวัง
รอยจูบแม่มด (ญี่ปุ่น: Witch Kiss 魔女の口づけ Majo no Kuchizuke ?)
รอยจูบแม่มดคือสัญลักษณ์ที่แม่มดทำไว้ที่คอมนุษย์โดย แม่มดจะแอบหลบซ่อนอยู่ในมิติพิเศษและคอยหาเหยื่อเมื่อโดนรอยจูบแม่มดแล้ว จะทำให้เกิอาการหรือที่อยากฆ่าตัวตาย รอยจูบแม่มดมนุษย์ธรรมดาสามารถมองเห็นได้แต่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย โดยเมื่อเจอมนุษย์ที่มีรอยจูบแม่มดสาวน้อยเวทมนตร์จะสามารถเจอแม่มดอยู่แถวๆนั้นได้ และเมื่อคนที่มีรอยจูบแม่มดฆ่าตัวตายได้แล้วมนุษย์คนนั้นก็จะกลายเป็นแม่มด
อ้างอิง[แก้]
กระโดดขึ้น ↑ Lada, Jenni (August 26, 2011). "Important Importables: Puella Magi Madoka Magica". Technology Tell. สืบค้นเมื่อ February 28, 2012.
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
Official website (ญี่ปุ่น)
Puella Magi Madoka Magica at Aniplex (ญี่ปุ่น)
Mahou Shoujo Madoka★Magica @ higu-fc.com (ไทย)
โค้ด กีอัส ภาคการปฏิวัติของลูลูช
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โค้ด กีอัส ภาคการปฏิวัติของลูลูช
ชื่อไทย โค้ด กีอัส ภาคการปฏิวัติของลูลูช
ชื่อญี่ปุ่น コードギアス 反逆のルルーシュ
ชื่ออังกฤษ Code Geass - Lelouch of the
Rebellion
ประเภท โชเน็น
แนว ไซไฟ, แฟนตาซี, หุ่นยนต์,หลากหลาย
ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์
ผู้กำกับ โกโร่ ทานิงุจิ
ออกแบบตัวละคร แคลมป์ (ต้นฉบับ)
ทากาฮิโระ คิมูระ (อะนิเมะ)
ผลิตโดย ซันไรส์
ฉายทาง MBS, TBS, แอนิแมกซ์
ทรูวิชันส์
ฉายครั้งแรก 5 ตุลาคม พ.ศ. 2549 - 29 มีนาคม พ.ศ. 2550
28 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
(ตอนที่ 24-25)
จำนวนตอน 25 ตอน
ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์
โค้ด กีอัส ภาคการปฏิวัติของลูลูช อาร์ทู
ผู้กำกับ โกโร่ ทานิงุจิ
ออกแบบตัวละคร แคลมป์ (ต้นฉบับ)
ทากาฮิโระ คิมูระ (อะนิเมะ)
ผลิตโดย ซันไรส์
ฉายทาง MBS, TBS, แอนิแมกซ์
ฉายครั้งแรก 6 เมษายน พ.ศ. 2551 - 28 กันยายน พ.ศ. 2551
จำนวนตอน 25 ตอน
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมการ์ตูนญี่ปุ่น
โค้ด กีอัส ภาคการปฏิวัติของลูลูช (ญี่ปุ่น: コードギアス 反逆のルルーシュ Kōdo Giasu Hangyaku no Rurūshu ?) (CODE GEASS Lelouch of the Rebellion) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นแนวหุ่นยนต์รบคล้ายกับกันดั้ม โดยผสมผสานกลิ่นไอแบบ เดทโน็ต สมุดโน็ตมรณะ สร้างโดยทีมงานซันไรส์ กำกับโดยโกโร่ ทานิงุจิ และเขียนบทโดยอิจิโร่ โอโคอุจิ ซึ่งเคยร่วมงานกันมาแล้วในผลงานอื่นของซันไรส์ เช่น Planetes โดยได้รับการออกแบบตัวละครโดยกลุ่มแคลมป์ ที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับมากมาย
แอะนิเมะชุดนี้ออกฉายในประเทศญี่ปุ่นทางสถานีโทรทัศน์ MBS ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2549 ถึงวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 และฉายผ่านโทรทัศน์ระบบดาวเทียมทางช่อง Animax ครั้งแรกในวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 ส่วนซีซั่นที่สองเริ่มฉายในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2551 และสิ้นสุดในวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2551 ทั้งสองซีซั่นประกอบไปด้วยซีซั่นละ 25 ตอน
ส่วนในประเทศไทย ถอดรหัสเนตรราชันย์ ลูลูชปฏิวัติ ได้รับลิขสิทธิ์จัดจำหน่ายโดย DEX โดยยังมีการนำไปทำเป็น การตูนในภายหลังอีกทั้งที่เป็นลิขสิทธิ์และโดจินอีกด้วย ซึ่งเป็นที่น่าสนใจคือมีการเขียนตัวละครเลียนแบบโดยสลับเพศกันซึ่งทำให้ได้รับความนิยมสูงขึ้นไปอีก
เนื้อหา [ซ่อน]
1 เนื้อเรื่อง
2 (ภาคต่อ)Code Geass R2
3 Code Geass Akito The Exiled
4 จักรวรรดิและประเทศต่างๆ
5 ตัวละครหลัก
6 ไนท์ออฟราวน์
7 กีอัส
7.1 บุคคลที่มีกีอัสที่ปรากฏในซีรีส์
8 กองกำลัง และอาวุธที่ใช้ในเรื่อง
9 รายชื่อตอนในโค้ด กีอัส
9.1 โค้ด กีอัส
9.2 โค้ด กีอัส อาร์ทู
10 เพลงประกอบอะนิเมะ
10.1 เพลงเปิด
10.2 เพลงปิด
10.3 เพลงแทรกระหว่างเรื่อง
11 เพลงประกอบอะนิเมะ ซีซั่นสอง
11.1 เพลงเปิด
11.2 เพลงปิด
12 แหล่งข้อมูลอื่น
เนื้อเรื่อง[แก้]
ในวันที่ 10 เดือนสิงหาคม ปี ค.ศ. 2010 จักรวรรดิบริททาเนียได้โจมตีญี่ปุ่นด้วยหุ่นยนต์รุ่นใหม่ ไนท์แมร์เฟรม ทำให้ญี่ปุ่นพ่ายแพ้ และเสียชื่อประเทศและอิสรภาพไป ประเทศญี่ปุ่นถูกเรียกว่า Area 11 (แอเรีย สิบเอ็ด) และคนญี่ปุ่นถูกเรียกว่า ชาว 11 (อีเลฟเว่น) ชาวอีเลฟเว่นถูกบังคับให้อาศัยอยู่ในถิ่นที่เสื่อมโทรม ในขณะที่ชาวบริททาเนียเข้ามาอาศัยในบ้านเรือนที่หรูหรา อย่างไรก็ตาม มีชาวญี่ปุ่นหลายกลุ่มที่ตั้งตัวเป็นกบฏ ต่อต้านบริททาเนีย เพื่ออิสระของประเทศญี่ปุ่น
7 ปีต่อมา ลูลูช นักเรียนโรงเรียนแอชฟอร์ดคนหนึ่ง ได้เข้าไปพัวพันกับกลุ่มกบฏในแอเรียสิบเอ็ด และพบกับหญิงสาวลึกลับ นามว่า ซีทู [C.C.] ผู้มอบพลังของกีอัสให้กับเขา ทำให้เขามีพลังที่จะต่อสู้กับบริททาเนีย แก้แค้นให้มารดาของเขา และสร้างโลกที่อ่อนโยนที่ นานาลี่ น้องสาวของเขา จะอยู่ได้อย่างสงบสุข จนเขาได้รู้ความจริงว่าเพื่อนรักของเขาหรือซูซาคุนั้นต้องมาเป็นศัตรูกันเนื่องจากซูซาคุได้ไปเป็นทหารของบริททาเนียเขาจึงต้องอยู่ภายใต้หน้ากากและภายใต้นามว่า ซีโร่ [Zero] และได้ก่อตั้งภาคีอัศวินดำขึ้น และสมรู้ร่วมคิดกับ ซีทู เรื่อยมาจนความจริงและตัวตนของเขาเปิดเผยโดยเพื่อนรักของเขาเอง
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมข้อมูลในส่วนนี้ได้
(ภาคต่อ)Code Geass R2[แก้]
2018 เกิดสงครามแบ่งแยกตัวออกเป็นเอกราชจากบริททาเนีย ในสงครามพลเมืองต่อต้าน ครั้งนี้ถูกเรียกว่า"Black Rebellion" แต่ผลลับของสงครามครั้งนี้คือความพ่ายแพ้ของ เหล่า "ภาคีอัศวินดำ " และ "Zero" ก็หายสาบสูญ โดยบริททาเนียลงความเห็นว่า "ได้เสียชีวิตระหว่างการรบแล้ว"
1 ปีต่อมา ปี 2019 ผู้ก่อการร้ายที่นาม "Zero" ที่น่าจะตายไปแล้วปรากฏตัวขึ้นและประกาศสร้าง "สหพันธญี่ปุ่น" อีกครั้งใน Area11 บริททาเนียจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อจับกุมตัวซีโร่ แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ชิงตัวเจ้าสาวและเกิดการล้มล้างระบบการปกครองของสหพันธ์จีน ซีโร่ก็ได้ร่วมมือกับสหพันธ์จีนและนานาชาติกลายเป็น "มหาสหพันธรัฐ" โดยมีเงื่อนไขว่าทุกประเทศที่เข้าร่วมต้องปลดกำลังพลอาวุธ และมีกลุ่มภาคีอัศวินดำเป็นเหมือนโล่และปืนในการป้องกัน โดยเป้าหมายแรกที่มหาสหพันธรัฐได้ยื่นร้องขอให้กลุ่มภาคีอัศวินดำทำก็คือ "ปลดปล่อยญี่ปุ่น"
กลุ่มภาคีอัศวินดำจึงได้ปะทะกับจักรวรรดิบริททาเนียอีกครั้งในนามของมหาสหพันธรัฐ แต่ก่อนที่จะได้เริ่มดำเนินการตามแผนก็กลับเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นในกลุ่มภาคีอัศวินดำเสียก่อน นั่นก็คือเหล่าแกนนำของภาคีอัศวินดำได้ล่วงรู้ตัวตนของซีโร่ว่าคืออดีตรัชทายาทลำดับที่11 ลูลูช วี บริททาเนีย และเรื่องของกีอัสของลูลูชจากชไนเซล ทำให้เกิดการต่อต้านขึ้นภายในองค์กร ซึ่งพวก โอกิ และโทโด ได้คิดจะฆ่าลูลูช แต่โรโล่ได้ขับ ชินคิโร่ ไนท์แมร์ของลูลูชเพื่อช่วยเหลือลูลูช จนทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้ โรโล่ต้องตายลงไปเพราะใช้กีอัสมากเกินไปจนหัวใจรับภาระหนักจนตายลูลูชจึงได้เริ่มต้นในการต่อสู้ตัดสินกับชาร์ล พ่อของตนเอง และก็ได้ล่วงรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงของโลกแห่งC และเจตนาที่แท้จริงของชาร์ลและมารีแอน เมื่อลูลูชปฏิเสธแผนการณ์ของชาร์ลและมารีแอน ทำให้ชาร์ลและมารีแอนโดนโลกแห่งCกลืนเข้าไป ต่อมาลูลูชได้ขึ้นดำรงตำแหน่งจักรพรรดิบริททาเนียลำดับที่99 และร่วมมือกับสุซาคุ โค่นล้มราชวงศ์ บริททาเนีย ล้มระบบแบบเดิม ยกเลิกกลุ่มนายทุน และขุนนาง ทำให้ได้รับความชื่นชมจากนานาประเทศ หลังจากครองราชย์ได้ไม่นาน ไนท์ออฟ ราวนด์ นำโดย บิสมาร์ค,จีโน่,โมนิก้า และคนในสังกัดก่อการกบฏต่อลูลูช และโดนสุซาคุซึ่งขับแลนสล็อตอาร์เบี้ยนจัดการ เมื่อการต่อสู้จบลง ลูลูชได้ประกาศเข้าร่วมกับมหาสหพันธรัฐ และเริ่มแผนการรวมโลกให้เป็นหนึ่ง[Zero Requiem] เมื่อสงครามจบลงลูลูชเป็นฝ่ายได้ชัยชนะ ในตอนจบลูลูชได้ให้สุซาคุกลายเป็นZeroแทนตนเองเพื่อให้กลายเป็นวีรบุรุษที่ช่วยโลกนี้ด้วยการสังหารลูลูช
บทเพลงสรรเสริญซีโร่ [Zero Requiem] เป็นแผนการณ์ที่ลูลูชและสุซาคุร่วมกันวางแผน โดยการให้ลูลูชสร้างความแค้นให้กับคนทั้งโลก เพื่อที่จะได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความแค้น เมื่อลูลูชแบกรับความแค้นของคนทั้งโลกจนหมด ก็ให้สุซาคุที่แสร้งตายไปแล้วจากสงคราม แสดงตนเป็นZeroเพื่อลงมือฆ่าลูลูชต่อหน้าสาธารณชน เพื่อตัดความแค้นของคนทั้งโลกให้หายไปพร้อมกับความตายของลูลูช โดยแผนการณ์ครั้งนี้เป็นแผนการณ์ที่ลูลูชเตรียมใจที่จะตายเพื่อชดใช้ความผิดที่ใช้กีอัสของตนกับคนอื่นๆจนเป็นเหตุให้คนอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องตายไปเป็นจำนวนมาก รวมถึงยูเฟเมีย เชอร์ลี่ และโรโล่ ด้วย
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมข้อมูลในส่วนนี้ได้
Code Geass Akito The Exiled[แก้]
เป็นภาคเสริมของCode Geass ซึ่งใช้ตัวละครที่แตกต่างกัน และจะดำเนินเรื่องไปพร้อมกัน กับ Code Geass ภาคธรรมดา เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับทางฝั่งEUและบริททาเนีย Code Geass: Akito the Exiled จะถูกสร้างเป็น OVA แบบภาพยนตร์ ในช่วงซัมเมอร์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมข้อมูลในส่วนนี้ได้
จักรวรรดิและประเทศต่างๆ[แก้]
ในโลกของกีอัส มีชาติมหาอำนาจอยู่สามชาติ คือ จักรวรรดิบริแทนเนียอันศักดิ์สิทธิ์ สหพันธ์จีน และ สหพันธ์ยุโรป
จักรวรรดิบริททานเนียอันทรงเกียรติ์(The Holy Empire of Britannia) จักรวรรดิที่ทรงแสนยานุภาพที่สุดในโลก ในซีซั่นแรก จักรวรรดิครอบครองทวีปอเมริกาทั้งหมด รวมทั้งนิวซีแลนด์ โอเชียเนีย และญี่ปุ่น รวมแล้วเป็นพื้นที่ถึงหนึ่งในสามของโลกและในตอนที่ 6 ตะวันออกกลางจึงถูกจัดตั้งเป็น Area 18 โดย เจ้าหญิงโคเนเรีย ในซีซั่นที่ 2 องค์ชายชไนเซล นำกองทัพเข้ายึดสหพันธ์ยุโรปได้ครึ่งหนึ่ง มีนครหลวงชื่อเพนดรากอน การปกครอง จะมีการแบ่งชนชั้นตามชาติตระกูล ฐานันดร
สหพันธรัฐจีน (The Chinese Federation) กินพื้นที่เอเชียตะวันออก (ไม่นับญี่ปุ่น) เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้ เมืองหลวงคือ นครต้องห้าม ลั่วหยาง ลักษณะการปกครองคล้ายจักรวรรดิ มีองค์จักรพรรดินีเทียนจื่อเป็นสัญลักษณ์ เศรษฐกิจจะเป็นการแบ่งสันปันส่วนทรัพยากร เนื่องจากสหพันธ์จีน เป็นชาตที่มีประชากรมากที่สุดในโลก
สหพันธ์ยุโรป (The Euro Universe) เป็นสหพันธ์ที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตย กินพื้นที่ในทวีปยุโรปทั้งหมด(ไม่นับเกาะอังกฤษ) รวมทั้ง แอฟริกา และรัสเซียด้วย มีความขัดแย้งกับจักรวรรดิบริททานเนียมาช้านาน เพราะพระเจ้านโปเลียนสามารถยกทัพยึดเกาะอังกฤษได้ ทำให้อังกฤษต้องย้ายถิ่นฐานไปทวีปอเมริกาซึ่งต่อมาก็คือ จักรวรรดิบริททานเนียอันศักดิ์สิทธิ์ ในซีซั่นที่ 2 สหพันธ์ยุโรปถูกจักรวรรดิบริททานเนียยึดครอง สเปน โปรตุเกส ฝรั่งเศส แอฟริกาฝั่งตะวันตก ซาฮารา ถึงอียิปต์ และรัสเซีย ทำให้สหพันธ์ยุโรปประกาศยอมแพ้ต่อจักรวรรดิ แต่มีประเทศบางส่วนไม่ยอม เช่น อิตาลี โปแลนด์ ได้เข้าร่วมสมคบคิดกับซีโร่ ก่อตั้ง องค์การสหพันธ์แห่งประชาชาติ
ญี่ปุ่น (Japan) ประเทศที่ถูกบริททานเนียยึดครองในสงครามแปซิฟิกครั้งที่ 2 โดยความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างบริททานเนียกับญี่ปุ่น โดยบริททานเนียอ้างถึงความปลอดภัยของลูลูชและนานาลี่ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการเข้ายึดครองประเทศ แต่จุดประสงค์หลักคือ ญี่ปุ่นมีแร่ซากุระไดต์มาก ถึง 70% ของโลก ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่สำคัญของไนท์แมร์แฟรม และเป็นฐานที่มั่นในการขยายอิทธิพลเข้าสู่สหพันธ์จีน ญี่ปุ่นประเทศที่ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Area 11 ชาวญี่ปุ่นถูกเรียกว่า eleven ในการแบ่งถิ่นที่อยู่อาศัยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ เขตที่บริททานเนียตั้งถิ่นฐาน ชาว eleven ที่จะเข้ามาอยู่อาศัยต้องไปขึ้นทะเบียนที่หน่วยปกครอง จะถูกเลื่อนสถานะเป็นชาวบริททานเนียผู้ทรงเกียรติ ซึ่งถึงแม้จะมีฐานะเท่าชาวบริททานเนีย แต่ด้วยการที่ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่แพ้สงคราม และการแบ่งชนชั้นของชาวบริททานเนีย ชาวeleven มักถูกดูถูก และถูกรังเกียจ จากชาวบริททานเนีย ที่อยู่อีกประเภทจะถูกเรียกว่า เก็ตโต้ เป็นเขตเสื่อมโทรม ที่ไม่ได้รับการดูแลจากชาวบริททานเนีย เป็นแหล่งที่อยู่ของชาว eleven ที่รักในศักดิ์ศรี มักเป็นแหล่งกบดานของกลุ่มต่อต้านจักรวรรดิ เนื่องจากอยู่ห่างจากเขตของบริททานเนีย และด้วยผังเมืองเก่าที่เป็น ทางรถไฟใต้ดิน จึงเหมาะแก่การเคลื่อนย้ายและซ่อนตัวของกลุ่มต่อต้าน ก่อนที่จะถูกยึดครองเป็นเมืองขึ้นโดยบริทาเนียปกครองโดยองค์หญิงสุเมรายะ คากูระ(ที่แสนจะอ่อนโยน)
อินเดีย (India) หนึ่งในชาติสมาชิกของสหพันธ์จีน ที่ต้องการแยกตัวออกจากสหพันธ์จีน โดยร่วมมือกับภาคีอัศวินดำในการก่อกบฏที่ญี่ปุ่น ตั้งแต่ส่งอาวุธ รวมทั้งทีมนักวิทยาศาสตร์ของรัคชาตะ มาพัฒนาอาวุธ ดังที่เห็นได้ชัด คือหุ่นกุเร็น นิชิกิ ซึ่งมีคาเร็นเป็นคนขับ อาวุธพิเศษคือแขนขวาขนาดใหญ่ยาวกว่าปรกติเป็นกงเล็บแหลมคม ตรงฝ่ามือมีปืนใหญ่ Hadron อยู่ ( ลำแสงสีแดงเลือดที่พุ่งออกมา )
องค์การสหพันธ์ประชาชาติ (The United Federation of Nations) องค์การสหพันธ์ประชาชาติ เกิดจากกลุ่มประเทศที่ต่อต้านจักรวรรดิบริททานเนียอันศักดิ์สิทธิ์มารวมตัวกัน คือ กลุ่มสหพันธ์ยุโรปบางส่วนที่ไม่ยอมรับการประกาศยอมแพ้ สหพันธ์จีน สหพันธ์ญี่ปุ่นและภาคีอัศวินดำ โดยซีโร่เป็นคนดำเนินการ ทำให้สมดุลอำนาจเปลี่ยนเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายจักรวรรดิและฝ่ายต่อต้านจักรวรรดิ โดยการ vote จะใช้จำนวนตัวแทนตามสัดส่วนประชากร หากบริททานเนียเข้าร่วม (ซึ่งรวมประเทศอาณานิคม) จักรวรรดิจะเข้าครอบงำสหพันธ์ทันที
ตัวละครหลัก[แก้]
ดูบทความหลักที่: ตัวละครในโค้ด กีอัส ภาคการปฏิวัติของลูลูช
ลูลูช แลมเพอร์ลูช หรือ ลูลูช วี บริททาเนีย (ญี่ปุ่น
ルルーシュ・ランペルージ Lelouch Lamperouge ?)
นักเรียม ม.ปลาย อายุ 17 ปี เกิดวันที่ 5 ธันวาคม เรียนที่โรงเรียนแอชฟอร์ด[Ashford Academy]เป็นรองประธานนักเรียน จริงๆแล้วเขาเป็นลูกของจักรพรรดิแห่งบริททาเนีย ชื่อจริงคือ ลูลูช วี บริททาเนีย (ญี่ปุ่น: ルルーシュ・ヴィ・ブリタニア Lelouch Vi Britania ?) รัชทายาทลำดับที่ 17 เมื่อตอนที่เขาอายุ 10 ขวบนั้น แม่ของเขาได้ถูกลอบสังหาร โดยคนในเชื้อพระวงศ์เชื่อว่าเป็นฝีมือของพวกก่อการร้าย แต่พ่อของเขานิ่งเฉย เขาจึงสาบานที่จะทำลายล้างบริททาเนีย
ภายหลังลูลูชและน้องสาวได้ถูกส่งตัวไปที่ญี่ปุ่นเพื่อเป็นตัวประกัน ในขณะนั้นพวกเขาได้พักที่บ้านของรัฐมนตรี เก็มบุ คุรุรุกิ ทำให้ลูลูชได้เป็นเพื่อนกับลูกชายของรัฐมนตรีที่ชื่อ สุซาคุ คุรุรุกิ การที่เขาใช้ชื่อปลอมเพราะไม่อยากถูกส่งกลับที่จักรวรรดิเพื่อถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเหมือนตอนที่โดนส่งมาเป็นตัวประกันที่ญี่ปุ่น
เจ็ดปีหลังจากนั้น เมื่อเขาได้พลัง กีอัสจากผู้หญิงลึกลับ ชื่อว่า "ซีทู" เขาก็ได้รวมตัวกับกลุ่มกบฏกลุ่มหนึ่ง ก่อตั้งภาคีอัศวินดำขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับบริททานเนีย ล้างแค้นให้แม่ของเค้า และสร้างโลกที่อ่อนโยน ที่เขาและนานาลี่น้องสาว จะอยู่ได้อย่างสงบสุข โดยเขาได้เป็นหัวหน้ากลุ่มใช้แฝงนามว่า ซีโร่ (ZERO) และปิดบังใบหน้าด้วยหน้ากาก เพื่อไม่ให้คนในกลุ่มรู้ว่าเขาเป็นใคร ภายหลังลูลูชตายจากนานาลี่ไปเพราะแผน บทเพลงสรรเสริญซีโร่
คุรุรุกิ สุซาคุ (ญี่ปุ่น
枢木 スザク Kururugi Suzaku ?)
เกิดวันที่ 10 กรกฎาคม เพื่อนสมัยเด็กของลูลูช และหนึ่งในคนที่รู้ว่าลูลูชแท้จริงเป็นใคร หลังจากสงคราม สุซาคุได้เข้าเป็นทหารของบริททานเนีย การที่สุซาคุเข้าเป็นทหารทำให้เขาเป็นประชากรบริททานเนียผู้ทรงเกียรติ และได้รับสิทธิพิเศษในการขับหุ่นไนท์แมร์เฟรมที่ให้สิทธิเฉพาะชาวบริททาเนียเท่านั้น โดยเป็นคนขับไนท์แมร์เฟรม รุ่นที่ 7แลนสลอต (Lancelot) ซึ่งเป็นเบต้าที่ยังไม่สมบูรณ์ ในภายหลัง เขาได้เข้าเรียนที่โรงเรียนแอชฟอร์ดตามคำสั่งของเจ้าหญิงยูเฟเมีย
สุซาคุไม่เชื่อในการกระทำที่ผิด และไม่เห็นด้วยกับการกระทำของซีโร่ เขาต้องการจะเปลี่ยนบริททาเนียจากภายใน ภายหลังจากสงครามระหว่างชไนเซลและกลุ่มภาคีอัศวินดำและบริททาเนีย สุซาคุได้แสร้งทำเป็นเสียท่าต่อคาเรน ว่าถูกระเบิดตายไป สุซาคุได้กลับมาอีกครั้งในฐานะของซีโร่คนใหม่แทนลูลูช และทำการประหารลูลูชในฐานะทรราชย์ของโลก โดยที่สุซาคุเองก็ไม่อยากที่จะฆ่าลูลูช แต่สุดท้ายก็ยอมรับหน้าที่ของซีโร่ ที่จะเป็นวีรบุรุษที่ช่วยเหลือโลก และคอยติดตามดูแลนานาลี่แทนลูลูช
ซีทู (ญี่ปุ่น
シー・ツー C.C. ?)
หญิงสาวลึกลับ ผมสีเขียว ตาสีส้ม ผู้ออกมาจากแคปซูลที่กลุ่มกบฏขโมยมาจากกองทัพบริททานเนีย โดยเข้าใจว่าเป็นแก๊สพิษ เธอได้มอบพลัง กีอัส หรือพลังแห่งราชา ให้กับลูลูช โดยทั้งคู่ได้ทำพันธะสัญญากัน มีเงื่อนไขว่า เธอจะมอบพลังให้และลูลูชจะต้องทำความปรารถนาของเธอให้เป็นจริง เธอคอยช่วยลูลูชเพื่อให้มั่นใจว่าเขาจะไม่ตายก่อนที่จะทำตามเงื่อนไขของเธอ ซีทูนั้นมีการฟื้นฟูร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ตัวเธอเองนั้นไม่สามารถที่จะใช้พลังกีอัส ได้แต่มอบพลังให้กับผู้อื่น เธอสามารถสร้างภาพที่คนๆนั้นกลัวที่สุดในชีวิตเป็นความหวาดกลัวให้กับคนที่เธอแตะต้องได้ แต่เธอจะไม่รู้เลยว่าคนๆนั้นได้เห็นอะไรบ้าง เพราะความกลัวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ซีทูนั้นอาศัยอยู่ห้องเดียวกับลูลูช เธอชอบกินพิซซ่ามากเป็นพิเศษถึงขนาดสะสมแสตมป์เพื่อให้ได้ตุ๊กตาที่เธอชอบ
ยูเฟเมีย ลี บริททาเนีย (ユーフェミア・リ・ブリタニア - Euphemia Li Britannia)
องค์หญิงองค์ที่สามแห่งราชวงศ์บริทาเนีย มีพ่อคนเดียวกันกับลูลูช และเป็นห่วงเป็นใยนันนานาลี่มาก หลังจากการตายของโคลวิส พี่ชายของเธอ เธอก็ได้เข้ามายังญี่ปุ่นหรืออีเลฟเว่น เธอได้พบกับสุซาคุและขอให้เขาเป็นอัศวินให้กับเธอ เธอเป็นน้องสาวที่คอร์เนเลียรักมาก และเป็นรักแรกของลูลูชด้วย ตัวเธอนั้นเองก็มีความหวังว่าจะสร้างสันติระหว่างชาวอีเลเว่นกันชาวบริทาเนีย
อาเนีย เอิร์ลสตราเตรล ( Anya Earlstrathaim )
ตำแหน่งของเธอคือไนท์ออฟซิกส์ อัศวันอันดับ 6 ในไนท์ออฟราวนด์ที่อายุน้อยที่สุด ดูท่าทางไม่ค่อยให้ความสนใจอะไรมากนัก ไม่ชอบแสดงอารมณ์ แต่มักจะพกโทรศัพท์มือถือไว้ติดตัวเสมอ ชอบอัปเดตบล็อกและถ่ายรูปด้วยกล้องมือถือ ดูเหมือนเธอจะมีเรื่องในอดีตบางอย่างปิดบังเอาไว้อยู่ นั้นก็คือ เหตุการณ์ลอบสังหารมารีแอนท่านแม่ของลุลุชและนานาลี ความจริงเป็นฝีมือการสังหารของ วี.วี. หรือ วีทู ที่นัดมารีแอนมาที่เทวสถานทางเข้าโลกของซี (wold of c) มารีแอนก็ไปตามนัดนั้น เพียงชั่ววู้บที่มารีแอนหันหลังไป วีทูก็ชักปืนยิงมารีแอนอย่างไมปรานี ด้วยกำลังเฮือกสุดท้ายมารีแอนใช้กีอัสของตนที่เคลื่อนย้ายจิตใจไปร่างกายคนอื่นได้ ย้ายจิตใจของตนไปในร่างของเด็กสาวคนหนึ่งที่แอบดูอยู่ข้างเสาซึ่งนั้นก็คือ อาเนีย นั้นเอง และหลังจากนั้นมารีแอนก็ซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึกของอาเนียตลอดมาจนเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น
คาลเลน สแทดท์เฟลด์ (ญี่ปุ่น
カレン・シュタットフェルト Kallen Stadtfeld ?)
คาลเลน สแทดท์เฟลด์ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ โคซุคิ คาเรน (ญี่ปุ่น: 紅月カレン Kōzuki Karen ?) เกิดวันที่ 29 มีนาคม เธอเป็นลูกครึ่งบริททา เนียและอีเลฟเว่น(ชาวญี่ปุ่น) เป็นนักเรียนในโรงเรียนแอชฟอร์ด และเป็นหนึ่งในกลุ่มกบฏโดยใช้ชื่อแฝง ปัจจุบันสังกัดภาคีอัศวินดำ และอยู่ใต้การบังคับบัญชาของซีโร่ เป็นหน่วยอิสระที่ขึ้นตรงต่อซีโร่เท่านั้น หลังจากสงคราม พ่อของเธอซึ่งเป็นชาวบริททานเนียได้แต่งงานใหม่กับคนบริททานเนีย และปล่อยให้ผู้เป็นแม่ของคาเรน ซึ่งเป็นชาวอีเลฟเว่น ทำงานในบ้านในฐานะคนรับใช้ ภายหลัง แม่ของเธอได้เข้าไปใช้ยาเสพติดจนมีโทษจำคุก เธอสัญญาว่าจะช่วยแม่ของเธอมาให้ได้
นานาลี่ แลมเพอร์ลูช (ญี่ปุ่น
ナナリー・ランペルージ Nunnally Lamperouge ?)
น้องสาวแท้ๆของลูลูช เดิมชื่อ นันนาลี่ วี บริทาเนีย (ญี่ปุ่น: ナナリー・ヴィ・ブリタニア Nunnally Vi Britannia ?) เกิดวันที่ 25 ธันวาคม เธอได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ที่พระนางมาเรียนน์แอน แม่ของลูลูชถูกลอบสังหาร จนทำให้เธอตาบอดและขาพิการนับแต่นั้นมา ลูลูชเชื่อว่าสักวันน้องสาวของเขาจะต้องมองเห็นอีกครั้งหนึ่ง เธอเป็นที่รู้จักดีในกลุ่มเพื่อนๆของลูลูช อีกทั้งยังสนิทกับสุซาคุตั้งแต่เด็กอีกด้วย นันนาลี่มีจิตใจดีและเรียกชาวอีเลฟเว่นว่าชาวญี่ปุ่น เธอเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ลูลูชต้องการจะต่อสู้ หลังจากที่ลูลูชตาย นานาลี่ได้กลายเป็นจักรพรรดินีของบริททาเนียคนใหม่และสานสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างๆโดยมีซีโร่[สุซาคุ] ชไนเซลและคาน่อน ให้ความช่วยเหลือ
ไนท์ออฟราวน์[แก้]
ไนท์ออฟราวน์ (ナイトオブラウンズ, Naito Obu Raunzu?) กลุ่มทหารรักษาพระองค์ที่ได้รับการคัดเลือกให้ขึ้นตรงต่อองค์จักรพรรดิ โดยมีตำแหน่งไล่จากอันดับ 1 ไปจนถึงอันดับ 12 พวกเขาทำงานนอกเหนือจากโครงสร้างทางกองทัพบริททานเนียเชื่อฟังแต่คำสั่ง จักรพรรดิเท่านั้น ไนท์ออฟราวน์ทุกคนล้วนเป็นนักบินไนท์แมร์ที่มีกำลังเสริมเพื่อสนับสนุนการ ปฏิบัติการณ์ของแต่ละคน ไนท์แมร์ของไนท์ออฟราวน์ทุกเครื่องล้วนได้รับการประทานชื่อให้ทันทีหลังจาก ที่ได้เข้าเป็นสมาชิกไนท์ออฟบราวน์ ไนท์ออฟบราวน์ถูกปฏิบัติเหมือนเช่นเดียวกับขุนนางคนนึงในจักรวรรดิ เป็นที่รู้กันว่าคนที่ได้รับตำแหน่งไนท์ออฟวันจะถือว่าเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวรรดิบริททานเนียและสามารถขอประทานการเลือกอาณานิคมที่ ต้องการประจำการอยู่ได้จากองค์จักรพรรดิ มีเพียง 8 ใน 12 คนเท่านั้นที่ปรากฏตัว
บิสมาร์ค วาลด์สไตน์ (Bismarck Waldstein)
บิสมาร์ค วาลด์สไตน์ (ビスマルク・ヴァルトシュタイン, Bisumaruku Varutoshutain) ตำแหน่งไนท์ออฟวัน ตำแหน่งสูงสุดในไนท์ออฟราวน์ อดีตเคยเป็นไนท์ออฟไฟว์ เป็นคนขับไนท์แมรเฟรม กาลาฮัด เป็นไนท์ออฟราวน์ที่แข็งแกร่งที่สุด เนื่องจากมีกีอัสที่อ่านอนาคตได้ ภายหลังถูกคุรุรุกิ ซุซาคุ ฆ่าด้วยการผ่าไนท์แมร์เป็นครึ่ง เนื่องจากคำสั่งให้มีชีวิตอยู่ต่อไปของลูลูซ ก็เลยล้มบิสมาร์คลงได้
จีโน่ เวียนเบิร์ก
จีโน่ เวียนเบิร์ก (ジノ・ヴァインベルグ, Jino Vainberugu?) ตำแหน่งไนท์ออฟทรีในไนท์ออฟราวน์ เป็นสุดยอดนักบินอายุเพียงแค่ 17 ปี เกิดในตระกูลชั้นสูงและไม่ค่อยเข้าใจชีวิตการทำงานของคนทั่วไป มีความสามารถในการขับไนท์แมร์เฟรมเป็นอย่างมาก จึงได้รับตำแหน่งในไนท์ออฟราวน์ มีนิสัยเป็นคนร่าเริงเข้ากับคนได้ง่าย รวมถึงสุซาคุที่แม้จะเป็นชาวอีเลฟเว่นด้วย ดูเหมือนจะให้ความสนใจในตัวของสุซาคุเลยพยายามเข้าใกล้บ่อย ๆ เป็นคนขับไนท์แมร์เฟรมทริสตัน
หลังจากที่เขากับอาเนียเสียท่าพ่ายแพ้ให้กับคาลเลนที่เอาชนะด้วยกุเร็น ติดปีก จีโน่กล่าวว่าความสามารถของคาลเลนนั้นเทียบเท่าได้กับความสามารถของไนท์ออฟบราวน์ เขาผิดหวังเล็กน้อยที่ไม่ได้ดวลกับคาลเลนอีกครั้งเมื่อลี ชิงเคอสามารถจับตัวเธอมาได้ในการต่อสู้ ต่อมาเขาและอาเนียเข้าศึกษาในโรงเรียนแอชฟอร์ดเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิต ของคนทั่วไป
ระหว่างที่คาลเลนถูกคุมขังในโตเกียว จีโน่ได้ไปเยี่ยมเธอและถามเธอว่าถ้ากลับบริททานเนียได้จะยอมใช้นามสกุล สแทดท์เฟลด์รึเปล่า เขาได้รับคำตอบจากปากของเธอเมื่อเธอเป็นอิสระและเข้าร่วมในการรบ เธอยืนยันว่าเธอจะใช้นามสกุลโคซึกิ และถามกลับว่าดีใจหรือเสียใจที่ได้พบกันอีกครั้งในสนามรบ เขาจึงตอบกลับไปว่าดีใจ เขาถามสุซาคุว่าจะปล่อยให้เขาดวลกับคาลเลนได้ไหมแต่สุซาคุยืนกรานว่าจะไม่ ให้เขาดวลกับเธอเด็ดขาดเพราะไม่ใช่คนที่จะเอาชนะได้ง่าย ๆ เมื่อชไนล์เซลวางแผนที่จะลอบปลงพระชนม์องค์จักรพรรดิเขาถูกจับเป็นนักโทษทำ ให้ไม่สามารถขัดขวางได้ ต่อมาหลังจากที่ลูลูซขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิ์เขาได้เข้าร่วมการต่อต้านอำนาจ ของลูลูซ สุซาคุทำให้ทริสตันพังจนใช้การไม่ได้และไว้ชีวิตจีโน่ เขาจึงถามตัวเขาเองว่าเขาจะสู้เพื่ออะไรถ้าเขาต้องสู้กับประเทศของตนทั้งที่ เคยให้สัตย์สาบานว่าจะปกป้องประเทศ หลังจากภาคีอัศวินดำเข้าร่วมกับชไนล์เซลตามคำสั่งโค่นอำนาจของลูลูซ จีโน่เข้าใจถึงเป้าหมายของตนและบอกกับคาลเลนว่าเขาเริ่มเข้าใจความรู้สึกของ เธอแล้วเล็กน้อย เขาเข้าต่อสู้กับสุซาคุ เขาปฏิเสธบริททานเนียโฉมหน้าใหม่และยุติมิตรภาพ แต่ผลการต่อสู้ก็คือเขาแพ้ ในการโจมตีครั้งสุดท้ายเขาทำให้เกราะของป้อมเดอมอคลีสมีช่องว่างเปิดออกทำ ให้คาลเลนสามารถบินเข้ามาสู้ได้ หลังจากที่คาลเลนสามารถเอาชนะสุซาคุได้ เธอก็หมดสติทำให้ไม่สามารถคุมกุเร็นได้จีโน่จึงนำทริสตันบินไปรับเธอขณะที่ เครื่องกำลังตก หลังการรบเขาถูกตัดสินลงโทษประหารชีวิตในฐานะกบฏต่อลูลูซและได้รับการช่วย เหลือหลังจากที่ลูลูซถูกลอบสังหาร ในท้ายสุดจีโน่ปรากฏตัวครั้งสุดท้ายในภาพที่ฉายภาพร่วมกับจักรพรรดินีเทียน จื่อซึ่งอยู่ในห้องของคาลเลนและภาพงานแต่งงานของโอกิและวิเลตตาที่แขวนใน ร้านเหล้าของทามากิโดยยืนอยู่ข้างคาลเลน
อาเนีย เอิร์ลสตราเตรล ( Anya Earlstrathaim )
ตำแหน่งของเธอคือไนท์ออฟซิกส์ อัศวันอันดับ 6 ในไนท์ออฟราวนด์ที่อายุน้อยที่สุด ดูท่าทางไม่ค่อยให้ความสนใจอะไรมากนัก ไม่ชอบแสดงอารมณ์ แต่มักจะพกโทรศัพท์มือถือไว้ติดตัวเสมอ ชอบอัปเดตบล็อกและถ่ายรูปด้วยกล้องมือถือ ดูเหมือนเธอจะมีเรื่องในอดีตบางอย่างปิดบังเอาไว้อยู่
นั้นก้คือ เหตุการณ์ลอบสังหารมารีแอนท่านแม่ของลุลุชและนานาลี ความจริงเป็นฝีมือการสังหารของ วี.วี. หรือ วีทู ที่นัดมารีแอนมาที่เทวสถานทางเข้าโลกของซี(wold of c)มารีแอนก็ไปตามนัดนั้น เพียงชั่ววู้บที่มารีแอนหันหลังไป วีทูก็ชักปืนยิงมารีแอนอย่างไมปรานี ด้วยกำลังเฮือกสุดท้ายมารีแอนใช้กีอัสของตนที่เคลื่อนย้ายจิตใจไปร่างกายคนอื่นได้ ย้ายจิตใจของตนไปในร่างของเด็กสาวคนหนึ่งที่แอบดูอยู่ข้างเสาซึ่งนั้นก็คือ อาเนีย นั้นเอง และหลังจากนั้นมารีแอนก็ซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึกของอาเนียตลอดมาจนเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น
กีอัส[แก้]
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โค้ด กีอัส ภาคการปฏิวัติของลูลูช
ชื่อไทย โค้ด กีอัส ภาคการปฏิวัติของลูลูช
ชื่อญี่ปุ่น コードギアス 反逆のルルーシュ
ชื่ออังกฤษ Code Geass - Lelouch of the
Rebellion
ประเภท โชเน็น
แนว ไซไฟ, แฟนตาซี, หุ่นยนต์,หลากหลาย
ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์
ผู้กำกับ โกโร่ ทานิงุจิ
ออกแบบตัวละคร แคลมป์ (ต้นฉบับ)
ทากาฮิโระ คิมูระ (อะนิเมะ)
ผลิตโดย ซันไรส์
ฉายทาง MBS, TBS, แอนิแมกซ์
ทรูวิชันส์
ฉายครั้งแรก 5 ตุลาคม พ.ศ. 2549 - 29 มีนาคม พ.ศ. 2550
28 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
(ตอนที่ 24-25)
จำนวนตอน 25 ตอน
ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์
โค้ด กีอัส ภาคการปฏิวัติของลูลูช อาร์ทู
ผู้กำกับ โกโร่ ทานิงุจิ
ออกแบบตัวละคร แคลมป์ (ต้นฉบับ)
ทากาฮิโระ คิมูระ (อะนิเมะ)
ผลิตโดย ซันไรส์
ฉายทาง MBS, TBS, แอนิแมกซ์
ฉายครั้งแรก 6 เมษายน พ.ศ. 2551 - 28 กันยายน พ.ศ. 2551
จำนวนตอน 25 ตอน
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมการ์ตูนญี่ปุ่น
โค้ด กีอัส ภาคการปฏิวัติของลูลูช (ญี่ปุ่น: コードギアス 反逆のルルーシュ Kōdo Giasu Hangyaku no Rurūshu ?) (CODE GEASS Lelouch of the Rebellion) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นแนวหุ่นยนต์รบคล้ายกับกันดั้ม โดยผสมผสานกลิ่นไอแบบ เดทโน็ต สมุดโน็ตมรณะ สร้างโดยทีมงานซันไรส์ กำกับโดยโกโร่ ทานิงุจิ และเขียนบทโดยอิจิโร่ โอโคอุจิ ซึ่งเคยร่วมงานกันมาแล้วในผลงานอื่นของซันไรส์ เช่น Planetes โดยได้รับการออกแบบตัวละครโดยกลุ่มแคลมป์ ที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับมากมาย
แอะนิเมะชุดนี้ออกฉายในประเทศญี่ปุ่นทางสถานีโทรทัศน์ MBS ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2549 ถึงวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 และฉายผ่านโทรทัศน์ระบบดาวเทียมทางช่อง Animax ครั้งแรกในวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 ส่วนซีซั่นที่สองเริ่มฉายในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2551 และสิ้นสุดในวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2551 ทั้งสองซีซั่นประกอบไปด้วยซีซั่นละ 25 ตอน
ส่วนในประเทศไทย ถอดรหัสเนตรราชันย์ ลูลูชปฏิวัติ ได้รับลิขสิทธิ์จัดจำหน่ายโดย DEX โดยยังมีการนำไปทำเป็น การตูนในภายหลังอีกทั้งที่เป็นลิขสิทธิ์และโดจินอีกด้วย ซึ่งเป็นที่น่าสนใจคือมีการเขียนตัวละครเลียนแบบโดยสลับเพศกันซึ่งทำให้ได้รับความนิยมสูงขึ้นไปอีก
เนื้อหา [ซ่อน]
1 เนื้อเรื่อง
2 (ภาคต่อ)Code Geass R2
3 Code Geass Akito The Exiled
4 จักรวรรดิและประเทศต่างๆ
5 ตัวละครหลัก
6 ไนท์ออฟราวน์
7 กีอัส
7.1 บุคคลที่มีกีอัสที่ปรากฏในซีรีส์
8 กองกำลัง และอาวุธที่ใช้ในเรื่อง
9 รายชื่อตอนในโค้ด กีอัส
9.1 โค้ด กีอัส
9.2 โค้ด กีอัส อาร์ทู
10 เพลงประกอบอะนิเมะ
10.1 เพลงเปิด
10.2 เพลงปิด
10.3 เพลงแทรกระหว่างเรื่อง
11 เพลงประกอบอะนิเมะ ซีซั่นสอง
11.1 เพลงเปิด
11.2 เพลงปิด
12 แหล่งข้อมูลอื่น
เนื้อเรื่อง[แก้]
ในวันที่ 10 เดือนสิงหาคม ปี ค.ศ. 2010 จักรวรรดิบริททาเนียได้โจมตีญี่ปุ่นด้วยหุ่นยนต์รุ่นใหม่ ไนท์แมร์เฟรม ทำให้ญี่ปุ่นพ่ายแพ้ และเสียชื่อประเทศและอิสรภาพไป ประเทศญี่ปุ่นถูกเรียกว่า Area 11 (แอเรีย สิบเอ็ด) และคนญี่ปุ่นถูกเรียกว่า ชาว 11 (อีเลฟเว่น) ชาวอีเลฟเว่นถูกบังคับให้อาศัยอยู่ในถิ่นที่เสื่อมโทรม ในขณะที่ชาวบริททาเนียเข้ามาอาศัยในบ้านเรือนที่หรูหรา อย่างไรก็ตาม มีชาวญี่ปุ่นหลายกลุ่มที่ตั้งตัวเป็นกบฏ ต่อต้านบริททาเนีย เพื่ออิสระของประเทศญี่ปุ่น
7 ปีต่อมา ลูลูช นักเรียนโรงเรียนแอชฟอร์ดคนหนึ่ง ได้เข้าไปพัวพันกับกลุ่มกบฏในแอเรียสิบเอ็ด และพบกับหญิงสาวลึกลับ นามว่า ซีทู [C.C.] ผู้มอบพลังของกีอัสให้กับเขา ทำให้เขามีพลังที่จะต่อสู้กับบริททาเนีย แก้แค้นให้มารดาของเขา และสร้างโลกที่อ่อนโยนที่ นานาลี่ น้องสาวของเขา จะอยู่ได้อย่างสงบสุข จนเขาได้รู้ความจริงว่าเพื่อนรักของเขาหรือซูซาคุนั้นต้องมาเป็นศัตรูกันเนื่องจากซูซาคุได้ไปเป็นทหารของบริททาเนียเขาจึงต้องอยู่ภายใต้หน้ากากและภายใต้นามว่า ซีโร่ [Zero] และได้ก่อตั้งภาคีอัศวินดำขึ้น และสมรู้ร่วมคิดกับ ซีทู เรื่อยมาจนความจริงและตัวตนของเขาเปิดเผยโดยเพื่อนรักของเขาเอง
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมข้อมูลในส่วนนี้ได้
(ภาคต่อ)Code Geass R2[แก้]
2018 เกิดสงครามแบ่งแยกตัวออกเป็นเอกราชจากบริททาเนีย ในสงครามพลเมืองต่อต้าน ครั้งนี้ถูกเรียกว่า"Black Rebellion" แต่ผลลับของสงครามครั้งนี้คือความพ่ายแพ้ของ เหล่า "ภาคีอัศวินดำ " และ "Zero" ก็หายสาบสูญ โดยบริททาเนียลงความเห็นว่า "ได้เสียชีวิตระหว่างการรบแล้ว"
1 ปีต่อมา ปี 2019 ผู้ก่อการร้ายที่นาม "Zero" ที่น่าจะตายไปแล้วปรากฏตัวขึ้นและประกาศสร้าง "สหพันธญี่ปุ่น" อีกครั้งใน Area11 บริททาเนียจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อจับกุมตัวซีโร่ แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ชิงตัวเจ้าสาวและเกิดการล้มล้างระบบการปกครองของสหพันธ์จีน ซีโร่ก็ได้ร่วมมือกับสหพันธ์จีนและนานาชาติกลายเป็น "มหาสหพันธรัฐ" โดยมีเงื่อนไขว่าทุกประเทศที่เข้าร่วมต้องปลดกำลังพลอาวุธ และมีกลุ่มภาคีอัศวินดำเป็นเหมือนโล่และปืนในการป้องกัน โดยเป้าหมายแรกที่มหาสหพันธรัฐได้ยื่นร้องขอให้กลุ่มภาคีอัศวินดำทำก็คือ "ปลดปล่อยญี่ปุ่น"
กลุ่มภาคีอัศวินดำจึงได้ปะทะกับจักรวรรดิบริททาเนียอีกครั้งในนามของมหาสหพันธรัฐ แต่ก่อนที่จะได้เริ่มดำเนินการตามแผนก็กลับเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นในกลุ่มภาคีอัศวินดำเสียก่อน นั่นก็คือเหล่าแกนนำของภาคีอัศวินดำได้ล่วงรู้ตัวตนของซีโร่ว่าคืออดีตรัชทายาทลำดับที่11 ลูลูช วี บริททาเนีย และเรื่องของกีอัสของลูลูชจากชไนเซล ทำให้เกิดการต่อต้านขึ้นภายในองค์กร ซึ่งพวก โอกิ และโทโด ได้คิดจะฆ่าลูลูช แต่โรโล่ได้ขับ ชินคิโร่ ไนท์แมร์ของลูลูชเพื่อช่วยเหลือลูลูช จนทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้ โรโล่ต้องตายลงไปเพราะใช้กีอัสมากเกินไปจนหัวใจรับภาระหนักจนตายลูลูชจึงได้เริ่มต้นในการต่อสู้ตัดสินกับชาร์ล พ่อของตนเอง และก็ได้ล่วงรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงของโลกแห่งC และเจตนาที่แท้จริงของชาร์ลและมารีแอน เมื่อลูลูชปฏิเสธแผนการณ์ของชาร์ลและมารีแอน ทำให้ชาร์ลและมารีแอนโดนโลกแห่งCกลืนเข้าไป ต่อมาลูลูชได้ขึ้นดำรงตำแหน่งจักรพรรดิบริททาเนียลำดับที่99 และร่วมมือกับสุซาคุ โค่นล้มราชวงศ์ บริททาเนีย ล้มระบบแบบเดิม ยกเลิกกลุ่มนายทุน และขุนนาง ทำให้ได้รับความชื่นชมจากนานาประเทศ หลังจากครองราชย์ได้ไม่นาน ไนท์ออฟ ราวนด์ นำโดย บิสมาร์ค,จีโน่,โมนิก้า และคนในสังกัดก่อการกบฏต่อลูลูช และโดนสุซาคุซึ่งขับแลนสล็อตอาร์เบี้ยนจัดการ เมื่อการต่อสู้จบลง ลูลูชได้ประกาศเข้าร่วมกับมหาสหพันธรัฐ และเริ่มแผนการรวมโลกให้เป็นหนึ่ง[Zero Requiem] เมื่อสงครามจบลงลูลูชเป็นฝ่ายได้ชัยชนะ ในตอนจบลูลูชได้ให้สุซาคุกลายเป็นZeroแทนตนเองเพื่อให้กลายเป็นวีรบุรุษที่ช่วยโลกนี้ด้วยการสังหารลูลูช
บทเพลงสรรเสริญซีโร่ [Zero Requiem] เป็นแผนการณ์ที่ลูลูชและสุซาคุร่วมกันวางแผน โดยการให้ลูลูชสร้างความแค้นให้กับคนทั้งโลก เพื่อที่จะได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความแค้น เมื่อลูลูชแบกรับความแค้นของคนทั้งโลกจนหมด ก็ให้สุซาคุที่แสร้งตายไปแล้วจากสงคราม แสดงตนเป็นZeroเพื่อลงมือฆ่าลูลูชต่อหน้าสาธารณชน เพื่อตัดความแค้นของคนทั้งโลกให้หายไปพร้อมกับความตายของลูลูช โดยแผนการณ์ครั้งนี้เป็นแผนการณ์ที่ลูลูชเตรียมใจที่จะตายเพื่อชดใช้ความผิดที่ใช้กีอัสของตนกับคนอื่นๆจนเป็นเหตุให้คนอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องตายไปเป็นจำนวนมาก รวมถึงยูเฟเมีย เชอร์ลี่ และโรโล่ ด้วย
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมข้อมูลในส่วนนี้ได้
Code Geass Akito The Exiled[แก้]
เป็นภาคเสริมของCode Geass ซึ่งใช้ตัวละครที่แตกต่างกัน และจะดำเนินเรื่องไปพร้อมกัน กับ Code Geass ภาคธรรมดา เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับทางฝั่งEUและบริททาเนีย Code Geass: Akito the Exiled จะถูกสร้างเป็น OVA แบบภาพยนตร์ ในช่วงซัมเมอร์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมข้อมูลในส่วนนี้ได้
จักรวรรดิและประเทศต่างๆ[แก้]
ในโลกของกีอัส มีชาติมหาอำนาจอยู่สามชาติ คือ จักรวรรดิบริแทนเนียอันศักดิ์สิทธิ์ สหพันธ์จีน และ สหพันธ์ยุโรป
จักรวรรดิบริททานเนียอันทรงเกียรติ์(The Holy Empire of Britannia) จักรวรรดิที่ทรงแสนยานุภาพที่สุดในโลก ในซีซั่นแรก จักรวรรดิครอบครองทวีปอเมริกาทั้งหมด รวมทั้งนิวซีแลนด์ โอเชียเนีย และญี่ปุ่น รวมแล้วเป็นพื้นที่ถึงหนึ่งในสามของโลกและในตอนที่ 6 ตะวันออกกลางจึงถูกจัดตั้งเป็น Area 18 โดย เจ้าหญิงโคเนเรีย ในซีซั่นที่ 2 องค์ชายชไนเซล นำกองทัพเข้ายึดสหพันธ์ยุโรปได้ครึ่งหนึ่ง มีนครหลวงชื่อเพนดรากอน การปกครอง จะมีการแบ่งชนชั้นตามชาติตระกูล ฐานันดร
สหพันธรัฐจีน (The Chinese Federation) กินพื้นที่เอเชียตะวันออก (ไม่นับญี่ปุ่น) เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้ เมืองหลวงคือ นครต้องห้าม ลั่วหยาง ลักษณะการปกครองคล้ายจักรวรรดิ มีองค์จักรพรรดินีเทียนจื่อเป็นสัญลักษณ์ เศรษฐกิจจะเป็นการแบ่งสันปันส่วนทรัพยากร เนื่องจากสหพันธ์จีน เป็นชาตที่มีประชากรมากที่สุดในโลก
สหพันธ์ยุโรป (The Euro Universe) เป็นสหพันธ์ที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตย กินพื้นที่ในทวีปยุโรปทั้งหมด(ไม่นับเกาะอังกฤษ) รวมทั้ง แอฟริกา และรัสเซียด้วย มีความขัดแย้งกับจักรวรรดิบริททานเนียมาช้านาน เพราะพระเจ้านโปเลียนสามารถยกทัพยึดเกาะอังกฤษได้ ทำให้อังกฤษต้องย้ายถิ่นฐานไปทวีปอเมริกาซึ่งต่อมาก็คือ จักรวรรดิบริททานเนียอันศักดิ์สิทธิ์ ในซีซั่นที่ 2 สหพันธ์ยุโรปถูกจักรวรรดิบริททานเนียยึดครอง สเปน โปรตุเกส ฝรั่งเศส แอฟริกาฝั่งตะวันตก ซาฮารา ถึงอียิปต์ และรัสเซีย ทำให้สหพันธ์ยุโรปประกาศยอมแพ้ต่อจักรวรรดิ แต่มีประเทศบางส่วนไม่ยอม เช่น อิตาลี โปแลนด์ ได้เข้าร่วมสมคบคิดกับซีโร่ ก่อตั้ง องค์การสหพันธ์แห่งประชาชาติ
ญี่ปุ่น (Japan) ประเทศที่ถูกบริททานเนียยึดครองในสงครามแปซิฟิกครั้งที่ 2 โดยความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างบริททานเนียกับญี่ปุ่น โดยบริททานเนียอ้างถึงความปลอดภัยของลูลูชและนานาลี่ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการเข้ายึดครองประเทศ แต่จุดประสงค์หลักคือ ญี่ปุ่นมีแร่ซากุระไดต์มาก ถึง 70% ของโลก ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่สำคัญของไนท์แมร์แฟรม และเป็นฐานที่มั่นในการขยายอิทธิพลเข้าสู่สหพันธ์จีน ญี่ปุ่นประเทศที่ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Area 11 ชาวญี่ปุ่นถูกเรียกว่า eleven ในการแบ่งถิ่นที่อยู่อาศัยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ เขตที่บริททานเนียตั้งถิ่นฐาน ชาว eleven ที่จะเข้ามาอยู่อาศัยต้องไปขึ้นทะเบียนที่หน่วยปกครอง จะถูกเลื่อนสถานะเป็นชาวบริททานเนียผู้ทรงเกียรติ ซึ่งถึงแม้จะมีฐานะเท่าชาวบริททานเนีย แต่ด้วยการที่ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่แพ้สงคราม และการแบ่งชนชั้นของชาวบริททานเนีย ชาวeleven มักถูกดูถูก และถูกรังเกียจ จากชาวบริททานเนีย ที่อยู่อีกประเภทจะถูกเรียกว่า เก็ตโต้ เป็นเขตเสื่อมโทรม ที่ไม่ได้รับการดูแลจากชาวบริททานเนีย เป็นแหล่งที่อยู่ของชาว eleven ที่รักในศักดิ์ศรี มักเป็นแหล่งกบดานของกลุ่มต่อต้านจักรวรรดิ เนื่องจากอยู่ห่างจากเขตของบริททานเนีย และด้วยผังเมืองเก่าที่เป็น ทางรถไฟใต้ดิน จึงเหมาะแก่การเคลื่อนย้ายและซ่อนตัวของกลุ่มต่อต้าน ก่อนที่จะถูกยึดครองเป็นเมืองขึ้นโดยบริทาเนียปกครองโดยองค์หญิงสุเมรายะ คากูระ(ที่แสนจะอ่อนโยน)
อินเดีย (India) หนึ่งในชาติสมาชิกของสหพันธ์จีน ที่ต้องการแยกตัวออกจากสหพันธ์จีน โดยร่วมมือกับภาคีอัศวินดำในการก่อกบฏที่ญี่ปุ่น ตั้งแต่ส่งอาวุธ รวมทั้งทีมนักวิทยาศาสตร์ของรัคชาตะ มาพัฒนาอาวุธ ดังที่เห็นได้ชัด คือหุ่นกุเร็น นิชิกิ ซึ่งมีคาเร็นเป็นคนขับ อาวุธพิเศษคือแขนขวาขนาดใหญ่ยาวกว่าปรกติเป็นกงเล็บแหลมคม ตรงฝ่ามือมีปืนใหญ่ Hadron อยู่ ( ลำแสงสีแดงเลือดที่พุ่งออกมา )
องค์การสหพันธ์ประชาชาติ (The United Federation of Nations) องค์การสหพันธ์ประชาชาติ เกิดจากกลุ่มประเทศที่ต่อต้านจักรวรรดิบริททานเนียอันศักดิ์สิทธิ์มารวมตัวกัน คือ กลุ่มสหพันธ์ยุโรปบางส่วนที่ไม่ยอมรับการประกาศยอมแพ้ สหพันธ์จีน สหพันธ์ญี่ปุ่นและภาคีอัศวินดำ โดยซีโร่เป็นคนดำเนินการ ทำให้สมดุลอำนาจเปลี่ยนเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายจักรวรรดิและฝ่ายต่อต้านจักรวรรดิ โดยการ vote จะใช้จำนวนตัวแทนตามสัดส่วนประชากร หากบริททานเนียเข้าร่วม (ซึ่งรวมประเทศอาณานิคม) จักรวรรดิจะเข้าครอบงำสหพันธ์ทันที
ตัวละครหลัก[แก้]
ดูบทความหลักที่: ตัวละครในโค้ด กีอัส ภาคการปฏิวัติของลูลูช
ลูลูช แลมเพอร์ลูช หรือ ลูลูช วี บริททาเนีย (ญี่ปุ่น
ルルーシュ・ランペルージ Lelouch Lamperouge ?)
นักเรียม ม.ปลาย อายุ 17 ปี เกิดวันที่ 5 ธันวาคม เรียนที่โรงเรียนแอชฟอร์ด[Ashford Academy]เป็นรองประธานนักเรียน จริงๆแล้วเขาเป็นลูกของจักรพรรดิแห่งบริททาเนีย ชื่อจริงคือ ลูลูช วี บริททาเนีย (ญี่ปุ่น: ルルーシュ・ヴィ・ブリタニア Lelouch Vi Britania ?) รัชทายาทลำดับที่ 17 เมื่อตอนที่เขาอายุ 10 ขวบนั้น แม่ของเขาได้ถูกลอบสังหาร โดยคนในเชื้อพระวงศ์เชื่อว่าเป็นฝีมือของพวกก่อการร้าย แต่พ่อของเขานิ่งเฉย เขาจึงสาบานที่จะทำลายล้างบริททาเนีย
ภายหลังลูลูชและน้องสาวได้ถูกส่งตัวไปที่ญี่ปุ่นเพื่อเป็นตัวประกัน ในขณะนั้นพวกเขาได้พักที่บ้านของรัฐมนตรี เก็มบุ คุรุรุกิ ทำให้ลูลูชได้เป็นเพื่อนกับลูกชายของรัฐมนตรีที่ชื่อ สุซาคุ คุรุรุกิ การที่เขาใช้ชื่อปลอมเพราะไม่อยากถูกส่งกลับที่จักรวรรดิเพื่อถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเหมือนตอนที่โดนส่งมาเป็นตัวประกันที่ญี่ปุ่น
เจ็ดปีหลังจากนั้น เมื่อเขาได้พลัง กีอัสจากผู้หญิงลึกลับ ชื่อว่า "ซีทู" เขาก็ได้รวมตัวกับกลุ่มกบฏกลุ่มหนึ่ง ก่อตั้งภาคีอัศวินดำขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับบริททานเนีย ล้างแค้นให้แม่ของเค้า และสร้างโลกที่อ่อนโยน ที่เขาและนานาลี่น้องสาว จะอยู่ได้อย่างสงบสุข โดยเขาได้เป็นหัวหน้ากลุ่มใช้แฝงนามว่า ซีโร่ (ZERO) และปิดบังใบหน้าด้วยหน้ากาก เพื่อไม่ให้คนในกลุ่มรู้ว่าเขาเป็นใคร ภายหลังลูลูชตายจากนานาลี่ไปเพราะแผน บทเพลงสรรเสริญซีโร่
คุรุรุกิ สุซาคุ (ญี่ปุ่น
枢木 スザク Kururugi Suzaku ?)
เกิดวันที่ 10 กรกฎาคม เพื่อนสมัยเด็กของลูลูช และหนึ่งในคนที่รู้ว่าลูลูชแท้จริงเป็นใคร หลังจากสงคราม สุซาคุได้เข้าเป็นทหารของบริททานเนีย การที่สุซาคุเข้าเป็นทหารทำให้เขาเป็นประชากรบริททานเนียผู้ทรงเกียรติ และได้รับสิทธิพิเศษในการขับหุ่นไนท์แมร์เฟรมที่ให้สิทธิเฉพาะชาวบริททาเนียเท่านั้น โดยเป็นคนขับไนท์แมร์เฟรม รุ่นที่ 7แลนสลอต (Lancelot) ซึ่งเป็นเบต้าที่ยังไม่สมบูรณ์ ในภายหลัง เขาได้เข้าเรียนที่โรงเรียนแอชฟอร์ดตามคำสั่งของเจ้าหญิงยูเฟเมีย
สุซาคุไม่เชื่อในการกระทำที่ผิด และไม่เห็นด้วยกับการกระทำของซีโร่ เขาต้องการจะเปลี่ยนบริททาเนียจากภายใน ภายหลังจากสงครามระหว่างชไนเซลและกลุ่มภาคีอัศวินดำและบริททาเนีย สุซาคุได้แสร้งทำเป็นเสียท่าต่อคาเรน ว่าถูกระเบิดตายไป สุซาคุได้กลับมาอีกครั้งในฐานะของซีโร่คนใหม่แทนลูลูช และทำการประหารลูลูชในฐานะทรราชย์ของโลก โดยที่สุซาคุเองก็ไม่อยากที่จะฆ่าลูลูช แต่สุดท้ายก็ยอมรับหน้าที่ของซีโร่ ที่จะเป็นวีรบุรุษที่ช่วยเหลือโลก และคอยติดตามดูแลนานาลี่แทนลูลูช
ซีทู (ญี่ปุ่น
シー・ツー C.C. ?)
หญิงสาวลึกลับ ผมสีเขียว ตาสีส้ม ผู้ออกมาจากแคปซูลที่กลุ่มกบฏขโมยมาจากกองทัพบริททานเนีย โดยเข้าใจว่าเป็นแก๊สพิษ เธอได้มอบพลัง กีอัส หรือพลังแห่งราชา ให้กับลูลูช โดยทั้งคู่ได้ทำพันธะสัญญากัน มีเงื่อนไขว่า เธอจะมอบพลังให้และลูลูชจะต้องทำความปรารถนาของเธอให้เป็นจริง เธอคอยช่วยลูลูชเพื่อให้มั่นใจว่าเขาจะไม่ตายก่อนที่จะทำตามเงื่อนไขของเธอ ซีทูนั้นมีการฟื้นฟูร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ตัวเธอเองนั้นไม่สามารถที่จะใช้พลังกีอัส ได้แต่มอบพลังให้กับผู้อื่น เธอสามารถสร้างภาพที่คนๆนั้นกลัวที่สุดในชีวิตเป็นความหวาดกลัวให้กับคนที่เธอแตะต้องได้ แต่เธอจะไม่รู้เลยว่าคนๆนั้นได้เห็นอะไรบ้าง เพราะความกลัวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ซีทูนั้นอาศัยอยู่ห้องเดียวกับลูลูช เธอชอบกินพิซซ่ามากเป็นพิเศษถึงขนาดสะสมแสตมป์เพื่อให้ได้ตุ๊กตาที่เธอชอบ
ยูเฟเมีย ลี บริททาเนีย (ユーフェミア・リ・ブリタニア - Euphemia Li Britannia)
องค์หญิงองค์ที่สามแห่งราชวงศ์บริทาเนีย มีพ่อคนเดียวกันกับลูลูช และเป็นห่วงเป็นใยนันนานาลี่มาก หลังจากการตายของโคลวิส พี่ชายของเธอ เธอก็ได้เข้ามายังญี่ปุ่นหรืออีเลฟเว่น เธอได้พบกับสุซาคุและขอให้เขาเป็นอัศวินให้กับเธอ เธอเป็นน้องสาวที่คอร์เนเลียรักมาก และเป็นรักแรกของลูลูชด้วย ตัวเธอนั้นเองก็มีความหวังว่าจะสร้างสันติระหว่างชาวอีเลเว่นกันชาวบริทาเนีย
อาเนีย เอิร์ลสตราเตรล ( Anya Earlstrathaim )
ตำแหน่งของเธอคือไนท์ออฟซิกส์ อัศวันอันดับ 6 ในไนท์ออฟราวนด์ที่อายุน้อยที่สุด ดูท่าทางไม่ค่อยให้ความสนใจอะไรมากนัก ไม่ชอบแสดงอารมณ์ แต่มักจะพกโทรศัพท์มือถือไว้ติดตัวเสมอ ชอบอัปเดตบล็อกและถ่ายรูปด้วยกล้องมือถือ ดูเหมือนเธอจะมีเรื่องในอดีตบางอย่างปิดบังเอาไว้อยู่ นั้นก็คือ เหตุการณ์ลอบสังหารมารีแอนท่านแม่ของลุลุชและนานาลี ความจริงเป็นฝีมือการสังหารของ วี.วี. หรือ วีทู ที่นัดมารีแอนมาที่เทวสถานทางเข้าโลกของซี (wold of c) มารีแอนก็ไปตามนัดนั้น เพียงชั่ววู้บที่มารีแอนหันหลังไป วีทูก็ชักปืนยิงมารีแอนอย่างไมปรานี ด้วยกำลังเฮือกสุดท้ายมารีแอนใช้กีอัสของตนที่เคลื่อนย้ายจิตใจไปร่างกายคนอื่นได้ ย้ายจิตใจของตนไปในร่างของเด็กสาวคนหนึ่งที่แอบดูอยู่ข้างเสาซึ่งนั้นก็คือ อาเนีย นั้นเอง และหลังจากนั้นมารีแอนก็ซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึกของอาเนียตลอดมาจนเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น
คาลเลน สแทดท์เฟลด์ (ญี่ปุ่น
カレン・シュタットフェルト Kallen Stadtfeld ?)
คาลเลน สแทดท์เฟลด์ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ โคซุคิ คาเรน (ญี่ปุ่น: 紅月カレン Kōzuki Karen ?) เกิดวันที่ 29 มีนาคม เธอเป็นลูกครึ่งบริททา เนียและอีเลฟเว่น(ชาวญี่ปุ่น) เป็นนักเรียนในโรงเรียนแอชฟอร์ด และเป็นหนึ่งในกลุ่มกบฏโดยใช้ชื่อแฝง ปัจจุบันสังกัดภาคีอัศวินดำ และอยู่ใต้การบังคับบัญชาของซีโร่ เป็นหน่วยอิสระที่ขึ้นตรงต่อซีโร่เท่านั้น หลังจากสงคราม พ่อของเธอซึ่งเป็นชาวบริททานเนียได้แต่งงานใหม่กับคนบริททานเนีย และปล่อยให้ผู้เป็นแม่ของคาเรน ซึ่งเป็นชาวอีเลฟเว่น ทำงานในบ้านในฐานะคนรับใช้ ภายหลัง แม่ของเธอได้เข้าไปใช้ยาเสพติดจนมีโทษจำคุก เธอสัญญาว่าจะช่วยแม่ของเธอมาให้ได้
นานาลี่ แลมเพอร์ลูช (ญี่ปุ่น
ナナリー・ランペルージ Nunnally Lamperouge ?)
น้องสาวแท้ๆของลูลูช เดิมชื่อ นันนาลี่ วี บริทาเนีย (ญี่ปุ่น: ナナリー・ヴィ・ブリタニア Nunnally Vi Britannia ?) เกิดวันที่ 25 ธันวาคม เธอได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ที่พระนางมาเรียนน์แอน แม่ของลูลูชถูกลอบสังหาร จนทำให้เธอตาบอดและขาพิการนับแต่นั้นมา ลูลูชเชื่อว่าสักวันน้องสาวของเขาจะต้องมองเห็นอีกครั้งหนึ่ง เธอเป็นที่รู้จักดีในกลุ่มเพื่อนๆของลูลูช อีกทั้งยังสนิทกับสุซาคุตั้งแต่เด็กอีกด้วย นันนาลี่มีจิตใจดีและเรียกชาวอีเลฟเว่นว่าชาวญี่ปุ่น เธอเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ลูลูชต้องการจะต่อสู้ หลังจากที่ลูลูชตาย นานาลี่ได้กลายเป็นจักรพรรดินีของบริททาเนียคนใหม่และสานสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างๆโดยมีซีโร่[สุซาคุ] ชไนเซลและคาน่อน ให้ความช่วยเหลือ
ไนท์ออฟราวน์[แก้]
ไนท์ออฟราวน์ (ナイトオブラウンズ, Naito Obu Raunzu?) กลุ่มทหารรักษาพระองค์ที่ได้รับการคัดเลือกให้ขึ้นตรงต่อองค์จักรพรรดิ โดยมีตำแหน่งไล่จากอันดับ 1 ไปจนถึงอันดับ 12 พวกเขาทำงานนอกเหนือจากโครงสร้างทางกองทัพบริททานเนียเชื่อฟังแต่คำสั่ง จักรพรรดิเท่านั้น ไนท์ออฟราวน์ทุกคนล้วนเป็นนักบินไนท์แมร์ที่มีกำลังเสริมเพื่อสนับสนุนการ ปฏิบัติการณ์ของแต่ละคน ไนท์แมร์ของไนท์ออฟราวน์ทุกเครื่องล้วนได้รับการประทานชื่อให้ทันทีหลังจาก ที่ได้เข้าเป็นสมาชิกไนท์ออฟบราวน์ ไนท์ออฟบราวน์ถูกปฏิบัติเหมือนเช่นเดียวกับขุนนางคนนึงในจักรวรรดิ เป็นที่รู้กันว่าคนที่ได้รับตำแหน่งไนท์ออฟวันจะถือว่าเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวรรดิบริททานเนียและสามารถขอประทานการเลือกอาณานิคมที่ ต้องการประจำการอยู่ได้จากองค์จักรพรรดิ มีเพียง 8 ใน 12 คนเท่านั้นที่ปรากฏตัว
บิสมาร์ค วาลด์สไตน์ (Bismarck Waldstein)
บิสมาร์ค วาลด์สไตน์ (ビスマルク・ヴァルトシュタイン, Bisumaruku Varutoshutain) ตำแหน่งไนท์ออฟวัน ตำแหน่งสูงสุดในไนท์ออฟราวน์ อดีตเคยเป็นไนท์ออฟไฟว์ เป็นคนขับไนท์แมรเฟรม กาลาฮัด เป็นไนท์ออฟราวน์ที่แข็งแกร่งที่สุด เนื่องจากมีกีอัสที่อ่านอนาคตได้ ภายหลังถูกคุรุรุกิ ซุซาคุ ฆ่าด้วยการผ่าไนท์แมร์เป็นครึ่ง เนื่องจากคำสั่งให้มีชีวิตอยู่ต่อไปของลูลูซ ก็เลยล้มบิสมาร์คลงได้
จีโน่ เวียนเบิร์ก
จีโน่ เวียนเบิร์ก (ジノ・ヴァインベルグ, Jino Vainberugu?) ตำแหน่งไนท์ออฟทรีในไนท์ออฟราวน์ เป็นสุดยอดนักบินอายุเพียงแค่ 17 ปี เกิดในตระกูลชั้นสูงและไม่ค่อยเข้าใจชีวิตการทำงานของคนทั่วไป มีความสามารถในการขับไนท์แมร์เฟรมเป็นอย่างมาก จึงได้รับตำแหน่งในไนท์ออฟราวน์ มีนิสัยเป็นคนร่าเริงเข้ากับคนได้ง่าย รวมถึงสุซาคุที่แม้จะเป็นชาวอีเลฟเว่นด้วย ดูเหมือนจะให้ความสนใจในตัวของสุซาคุเลยพยายามเข้าใกล้บ่อย ๆ เป็นคนขับไนท์แมร์เฟรมทริสตัน
หลังจากที่เขากับอาเนียเสียท่าพ่ายแพ้ให้กับคาลเลนที่เอาชนะด้วยกุเร็น ติดปีก จีโน่กล่าวว่าความสามารถของคาลเลนนั้นเทียบเท่าได้กับความสามารถของไนท์ออฟบราวน์ เขาผิดหวังเล็กน้อยที่ไม่ได้ดวลกับคาลเลนอีกครั้งเมื่อลี ชิงเคอสามารถจับตัวเธอมาได้ในการต่อสู้ ต่อมาเขาและอาเนียเข้าศึกษาในโรงเรียนแอชฟอร์ดเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิต ของคนทั่วไป
ระหว่างที่คาลเลนถูกคุมขังในโตเกียว จีโน่ได้ไปเยี่ยมเธอและถามเธอว่าถ้ากลับบริททานเนียได้จะยอมใช้นามสกุล สแทดท์เฟลด์รึเปล่า เขาได้รับคำตอบจากปากของเธอเมื่อเธอเป็นอิสระและเข้าร่วมในการรบ เธอยืนยันว่าเธอจะใช้นามสกุลโคซึกิ และถามกลับว่าดีใจหรือเสียใจที่ได้พบกันอีกครั้งในสนามรบ เขาจึงตอบกลับไปว่าดีใจ เขาถามสุซาคุว่าจะปล่อยให้เขาดวลกับคาลเลนได้ไหมแต่สุซาคุยืนกรานว่าจะไม่ ให้เขาดวลกับเธอเด็ดขาดเพราะไม่ใช่คนที่จะเอาชนะได้ง่าย ๆ เมื่อชไนล์เซลวางแผนที่จะลอบปลงพระชนม์องค์จักรพรรดิเขาถูกจับเป็นนักโทษทำ ให้ไม่สามารถขัดขวางได้ ต่อมาหลังจากที่ลูลูซขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิ์เขาได้เข้าร่วมการต่อต้านอำนาจ ของลูลูซ สุซาคุทำให้ทริสตันพังจนใช้การไม่ได้และไว้ชีวิตจีโน่ เขาจึงถามตัวเขาเองว่าเขาจะสู้เพื่ออะไรถ้าเขาต้องสู้กับประเทศของตนทั้งที่ เคยให้สัตย์สาบานว่าจะปกป้องประเทศ หลังจากภาคีอัศวินดำเข้าร่วมกับชไนล์เซลตามคำสั่งโค่นอำนาจของลูลูซ จีโน่เข้าใจถึงเป้าหมายของตนและบอกกับคาลเลนว่าเขาเริ่มเข้าใจความรู้สึกของ เธอแล้วเล็กน้อย เขาเข้าต่อสู้กับสุซาคุ เขาปฏิเสธบริททานเนียโฉมหน้าใหม่และยุติมิตรภาพ แต่ผลการต่อสู้ก็คือเขาแพ้ ในการโจมตีครั้งสุดท้ายเขาทำให้เกราะของป้อมเดอมอคลีสมีช่องว่างเปิดออกทำ ให้คาลเลนสามารถบินเข้ามาสู้ได้ หลังจากที่คาลเลนสามารถเอาชนะสุซาคุได้ เธอก็หมดสติทำให้ไม่สามารถคุมกุเร็นได้จีโน่จึงนำทริสตันบินไปรับเธอขณะที่ เครื่องกำลังตก หลังการรบเขาถูกตัดสินลงโทษประหารชีวิตในฐานะกบฏต่อลูลูซและได้รับการช่วย เหลือหลังจากที่ลูลูซถูกลอบสังหาร ในท้ายสุดจีโน่ปรากฏตัวครั้งสุดท้ายในภาพที่ฉายภาพร่วมกับจักรพรรดินีเทียน จื่อซึ่งอยู่ในห้องของคาลเลนและภาพงานแต่งงานของโอกิและวิเลตตาที่แขวนใน ร้านเหล้าของทามากิโดยยืนอยู่ข้างคาลเลน
อาเนีย เอิร์ลสตราเตรล ( Anya Earlstrathaim )
ตำแหน่งของเธอคือไนท์ออฟซิกส์ อัศวันอันดับ 6 ในไนท์ออฟราวนด์ที่อายุน้อยที่สุด ดูท่าทางไม่ค่อยให้ความสนใจอะไรมากนัก ไม่ชอบแสดงอารมณ์ แต่มักจะพกโทรศัพท์มือถือไว้ติดตัวเสมอ ชอบอัปเดตบล็อกและถ่ายรูปด้วยกล้องมือถือ ดูเหมือนเธอจะมีเรื่องในอดีตบางอย่างปิดบังเอาไว้อยู่
นั้นก้คือ เหตุการณ์ลอบสังหารมารีแอนท่านแม่ของลุลุชและนานาลี ความจริงเป็นฝีมือการสังหารของ วี.วี. หรือ วีทู ที่นัดมารีแอนมาที่เทวสถานทางเข้าโลกของซี(wold of c)มารีแอนก็ไปตามนัดนั้น เพียงชั่ววู้บที่มารีแอนหันหลังไป วีทูก็ชักปืนยิงมารีแอนอย่างไมปรานี ด้วยกำลังเฮือกสุดท้ายมารีแอนใช้กีอัสของตนที่เคลื่อนย้ายจิตใจไปร่างกายคนอื่นได้ ย้ายจิตใจของตนไปในร่างของเด็กสาวคนหนึ่งที่แอบดูอยู่ข้างเสาซึ่งนั้นก็คือ อาเนีย นั้นเอง และหลังจากนั้นมารีแอนก็ซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึกของอาเนียตลอดมาจนเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น
กีอัส[แก้]
กีอัส (ญี่ปุ่น: ギアス giasu ?) "พลังแห่งราชันย์" หรือ เนตรปีกแดง (ญี่ปุ่น: 王の力 Ō no Chikara ?) พลังความสามารถเหนือธรรมชาติที่คนบางคน (แม่มด) สามารถมอบให้กับผู้ที่ทำพันธะสัญญา ลักษณะของคนที่ได้รับพลังนี้ที่ตาจะมีสัญลักษณ์คล้ายรูปนกมีสีแดงเมื่อใช้
กีอัสของแต่ละคนมีความสามารถแตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับพื้นฐานของนิสัยแต่ละคนและมีอยู่ในตาข้างเดียว เมื่อใช้มาก ๆ จะทำให้พลังกล้าแกร่งขึ้นแต่ในขณะเดียวกันบางครั้งอาจไม่สามารถควบคุมพลังได้ แต่พลังกล้าแกร่งถึงที่สุดจะสามารถถอด "Code (รหัส)" ได้ทำให้ได้รับพลังที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม โดยพลังนี้อาจอยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายทำให้กีอัสกล้าแกร่งมากขึ้น และสามารถคุยกับผู้ใช้กีอัสคนอื่นได้และสามารถมอบความตายให้กับคู่พันธะสัญญาได้แม้จะไม่ยินยอมก็ตามที
กีอัสทุกอันล้วนมีความสามารถและข้อจำกัดในตัวเอง (เช่นกีอัสของลูลูซใช้ได้เพียงครั้งเดียวต่อคนเท่านั้นและต้องมองตาอีกฝ่าย) สามารถทำให้เอาชนะใครก็ได้ หากเข้าใจในพลังกีอัสของตนก็สามารถพัฒนาพลังให้มากขึ้นดังที่ปรากฏในเรื่องเช่นการเปลี่ยนความคิดและปณิทานของแต่ละบุคคลหรือแม้แต่ความทรงจำ
บุคคลที่มีกีอัสที่ปรากฏในซีรีส์[แก้]
ลูลูช วี บริททานเนีย - กีอัสของลูลูช เมื่อมองไปที่ตาของอีกฝ่ายก็จะสามารถออกคำสั่งให้ทำตามที่สั่งได้ทุกอย่าง มีจุดอ่อนคือ ต้องมองที่ตาโดยตรงเท่านั้น ถ้ามองผ่านแว่นไม่อาจใช้ได้ และใช้กับคนเดิมไม่ได้เป็นครั้งที่2
โรโล่ แลมเพอลูช - กีอัสของโรโล่ เมื่อใช้จะสามารถหยุดความรู้สึกเรื่องเวลาของผู้ที่อยู่ในรัศมีของกีอัส ทำให้ดูเหมือนว่าโรโล่สามารถหยุดเวลาได้ มีจุดอ่อนคือ ไม่สามารถใช้ได้นานเพราะว่าระหว่างที่ใช้กีอัสหัวใจของโรโล่จะหยุดเต้น ซึ่งโรโล่จะหยุดใช้กีอัสเป็นบางช่วง หากใช้ถี่จะทำให้หัวใจรับภาระหนักมาก จนอาจถึงตายได้
ชาร์ลส ซี บริททานเนีย - กีอัสของชาร์ล สามารถใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขความทรงจำได้โดยจะเหมือนลูลูชตรงที่ต้องสบตาอีกฝ่ายโดยตรง
มารีแอน วี บริททานเนีย - กีอัสของมารีแอน สามารถย้ายตัวตนที่เป็นจิตสำนึกของมารีแอนไปยังผู้อื่นได้ เมื่อย้ายไปก็สามารถใช้ร่างกายคนๆนั้นได้ เหมือนกับการเข้าสิงคนนั่นเอง
บิสมาร์ค วอลชไตน์ - กีอัสของบิสมาร์ค สามารถอ่านอนาคตล่วงหน้าได้ในระยะสั้นๆ เพื่อใช้รับมือในการต่อสู้กับ พระนางมารีแอน ที่เป็นคนขับไนท์แมร์ที่เร็วที่สุด ซึ่งถูกเรียกว่า "สายฟ้าแลบ มารีแอน" และบิสมาร์คก็ได้ใช้กีอัสในการต่อสู้กับสุซาคุที่ขับ แลนสล็อต อาร์เบี้ยน [เอเนอร์จี้ วิงก์]
เจเรเมียร์ กอดด์โวล - กีอัสของเจเรเมียร์มีพลังในการลบล้างกีอัส เรียกว่า กีอัสแคนเซนเลอร์
ซีทู - กีอัสของซีทู เมื่อใช้กับผู้อื่นก็สามารถทำให้ผู้คนหลงรักตนเองได้ แต่ก็ทำให้ซีทูเริ่มเบื่อในเรื่อง รักๆใคร่ๆ ก็เลยไม่ค่อยจะสนใจเรื่องรักซักเท่าไหร่
วีทู - กัอัสของวีทู ไม่ทราบแน่ชัด แต่โค้ดของวีทูคือทำให้วีทูไม่แก่ไม่ตาย แต่เมื่อตอนที่กลุ่มภาคีอัศวินดำถล่มศาสนจักร วีทูโดน ชาร์ลแย่งโค้ดที่ทำให้ไม่แก่ไม่ตายไป ทำให้วีทูตาย
มาโอะ (ภาษาจีนอ่านว่าเหมา) - กีอัสของเหมา ไม่สามารถควบคุมได้เหมาจึงใส่หูฟังที่มีแต่เสียงของซีทูพูดซ้ำไปซ้ำมา และใส่แว่นตาเพื่อที่จะไม่ต้องสบตากับใครเพราะเมื่อเหมาสบตากับใครเข้าก็จะรู้ความในใจที่คนๆนั้นเก็บไว้ได้จนหมด
กองกำลัง และอาวุธที่ใช้ในเรื่อง[แก้]
ภาคีอัศวินดำ
กองทัพขององค์หญิงโคเนเรียกลาสตันไนท์ชื่อของหน่วยมาจากชื่อเขากลาสตันบรีในตำนานของกษัตริย์อาเธอร์ กลาสตันไนท์เป็นหน่วยนักบินไนท์แมร์เฟรมที่ได้รับการคัดเลือกเป็นพิเศษอยู่ภายใต้การบัญชาของกิลเบิร์ท จี พี กิลฟอร์ด มี 5 คนซึ่งเป็นลูกของอันเดรียส ดาร์ลตันทั้งหมด ได้แก่ อัลเฟรด จี ดาร์ลตัน (ผมสีบลอนด์),บาร์ท แอล ดาร์ลตัน (ผมสีดำ),ครูดิโอ เอส ดาร์ลตัน (ผมสีน้ำตาล),เดวิด ที ดาร์ลตัน (ผมสีแดง) และเอ็ดก้า เอ็น ดาร์ลตัน (ผมสีเทา) ทุกคนแต่งเครื่องแบบสีแดงและสวมไวเซอร์ (หน้ากาก) ที่ประกอบขึ้นมาเหมือนกับหน้าตาของหุ่นโกวเซสเตอร์ เดิมทีกลาสตันไนท์ขับหุ่นโกวเซสเตอร์ที่ติดระบบมิสไซล์แต่ได้เปลี่ยนมาใช้หุ่นกาเร็ทซึ่งเป็นรุ่นใหม่กว่าในช่วงการบุกญี่ปุ่นของภาคีอัศวินดำ
กลาสตันไนท์ได้ถูกแนะนำในตอนที่ 21 ซึ่งมาจากแผ่นดินแม่และปราบปรามพวกภาคีอัศวินดำระหว่างเหตุการณ์ไม่สงบในตอนท้ายซีซั่นแรก ในซีซั่น 2 อัลเฟรดกับบาร์ทถูกฆ่าในระหว่างเหตุการ์ชิงตัวนักโทษโดยภาคีอัศวินดำ หุ่นโกวเซสเตอร์ของบาร์ทถูกฐานทัพเคลื่อนที่ G-1 ทับขณะเดียวกับที่คาลเลนฆ่าอัลเฟรด เดวิดกับเอ็ดก้าถูกฆ่าในระหว่างการรบในศึกโตเกียวครั้งที่ 2 โดยชิบะ (ด้วยความช่วยเหลือของคาลเลน) และโทโด ครูดิโดหนีรอดจากการระเบิดของระเบิดเฟรย่ามาได้และเป็นคนเดียวในหน่วยที่ยังมีชีวิตอยู่
ฝ่ายเทคนิคพิเศษ
แนวหน้าปลดปล่อยญี่ปุ่น
กลุ่มต่อต้านจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
กองกำลังป้องกันตนเอง ( Self-Defense Force )
กองกำลังของญี่ปุ่นกอนที่จะถูกจักรวรรดิยึดครอง ซึ่งกองกำลังส่วนหนึ่งผันไปเป็นแนวหน้าปลดปล่อยญี่ปุ่น
ไนท์แมร์เฟรม
ไนท์แมร์เฟรมคือหุ่นรบที่เดิมทีจักรวรรดิบริททานเนียเป็นผู้พัฒนาและถูกทำลอกเลียนแบบจากชาติต่าง ๆ ในซีรีส์ เพื่อแทนที่กำลังรบอย่างรถถังและยานเกราะต่าง ๆ ทั้งบก อากาศและน้ำ การเล่นคำของชื่อ "ไนท์แมร์" ตามจินตานาการภาพของอัศวิน (ไนท์) บนหลังม้า (แมร์) ต่อด้วย "เฟรม" ที่แปลว่าคนที่เดินด้วย 2 ขา
แลนสล็อต
หุ่นไนท์แมร์แฟรมรุ่นทดลอง ถือเป็นเครื่องแรกที่เป็นรุ่นที่ 7 , 8 และ 9 ตามฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้น
กุเร็น นิชิกิ
หุ่นรบที่ออกแบบโดยชาวญี่ป่น ซึ่งมีคาเรนเป็นคนขับ
เรือธงอวาลอน
ถือเป็นยานรบรุ่นใหม่ที่ถูกผลิตขึ้นของจักรวรรดิ ถูกสร้างโดยฝ่ายเทคนิคพิเศษ ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากชไนเซล ตัวยานสามารถหยุดกลางอากาศได้ มีเกราะลำแสง และปืนใหญ่ Hadron มีโรงเก็บไนท์แมร์แฟรม และทางส่งออกเพียง 1 ช่องทาง
ป้อมเวหาเดอมอคลีส
ป้อมเวหาขนาดใหญ่ถูกออกแบบให้เป็นฐานบัญชาการเคลื่อนที่ได้ ส่วนตัวยานมีรัศมียาวสูงสุด 3 กม. มีเกราะลำแสงที่แข็งแกร่งกว่าเรือธงอวาลอนมาก มีอาวุธทำลายล้างสูง คือ เฟรย่า หรือ ฟีเลีย (Felia) ด้วยการปลดลิมิตเตอร์ออก เฟรย่าที่ชไนเซลใช้สามารถทำลายนครหลวงเพนดรากอนให้หายไปในพริบตาได้ ด้วยแรงระเบิดที่กินพื้นที่รัศมี 100 กม. หากชไนเซลสามารถนำเดอมอคลีส~ไต่ระดับ ขึ้นไปที่ 300 กม. จากพื้นโลก จะสามารถยิงฟีเลียไปทุกที่ของโลกได้
รายชื่อตอนในโค้ด กีอัส[แก้]
โค้ด กีอัส[แก้]
1 วันที่จอมมารถือกำเนิด
2 อัศวินสีขาวตื่นจากนิทรา
3 เพื่อนร่วมชั้นจอมปลอม
4 นามนั้นคือ "ซีโร่"
5 รัชทายาทหญิงกับมารร้าย
6 หน้ากากที่ถูกช่วงชิง
7 กำจัดโคเนเรียซะ!
8 ภาคีอีศวินดำ
9 Refrain
10 กุเรนเริงระบำ
11 ศึกรุกรับที่นาริตะ
12 ทูตจากเกียวโต
13 เชอร์รี่และปากกระบอกปืน
14 กีอัส ปะทะ กีอัส
15 เสียงปรบมือแด่เหมา
16 ตัวประกันคือนานาลี่
17 อัศวิน
18 ขอออกคำสั่งแก่ คุรุรุกิ ซูซาคุ
19 เกาะแห่งพระเจ้า
20 สงครามคิวชู
21 ประกาศิตงานโรงเรียน
22 ยูฟี่ ชโลมเลือด
23 ล่วงลับไปกับความโศกเศร้า
24 สเต็จแห่งการพังทลาย
25 ซีโร่
โค้ด กีอัส อาร์ทู[แก้]
1 วันที่เทพอสูรคืนชีพ
2 แผนประกาศเอกราชญี่ปุ่น
3 โรงเรียนแห่งการจองจำ
4 แท่นประหารแห่งการโต้กลับ
5 Knight of Round
6 ปฏิบัติการลอบจู่โจมมหาสมุทรแปซิฟิก
7 หน้ากากที่ถูกทิ้ง
8 หนึ่งล้านปาฏิหาริย์
9 เจ้าสาวแห่งวังต้องห้าม
10 ยาม "เชิ่นหู" เปล่งแสง
11 พลังแห่งความรู้สึก
12 Love Attack
13 มือสังหารจากอดีต
14 ล่ากีอัส
15 โลกแห่ง C
16 มติลำดับแรกของมหาสหพันธรัฐ
17 รสชาติของผืนดิน
18 ศึกรบตัดสินโตเกียวครั้งที่ 2
19 ทรยศ
20 จักรพรรดิผู้ไร้คุณสมบัติ
21 การเชื่อมต่อของแร็คนาเรก
22 จักรพรรดิลูลุช
23 หน้ากากของชไนเซล
24 ท้องฟ้าของแดมโมคริซ
25 Re:
เพลงประกอบอะนิเมะ[แก้]
เพลงเปิด[แก้]
Colors ขับร้องโดย Flow
Kaidoku Funou ขับร้องโดย Jinn
Hitomi No Tsubasa ขับร้องโดย Access
เพลงปิด[แก้]
Yuukyou Seishunka ขับร้องโดย Ali Project
Mosaic Kakera ขับร้องโดย Sunset Swish
เพลงแทรกระหว่างเรื่อง[แก้]
Stories (Epi.05) ขับร้องโดย Hitomi Kuroishi
Masquerade (Epi.07) ขับร้องโดย Hitomi Kuroishi
Picaresque (Epi.17) ขับร้องโดย Mikio Sakai
Callin' (Epi.20) ขับร้องโดย Mikio Sakai
Alone (Epi.21) ขับร้องโดย Hitomi Kuroishi
Innocent Days (Epi.23) ขับร้องโดย Hitomi Kuroishi
Boku wa,Tori ni Naru (If I were a bird) ขับร้องโดย Hitomi Kuroishi
Continued Story ขับร้องโดย Hitomi Kuroishi
เพลงประกอบอะนิเมะ ซีซั่นสอง[แก้]
เพลงเปิด[แก้]
O2 ขับร้องโดย Orange Range
WORLD END ขับร้องโดย FLOW
เพลงปิด[แก้]
Shiawase Neiro ขับร้องโดย Orange Range
Waga Routashi Aku no Hana ขับร้องโดย Ali Project
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ (ญี่ปุ่น)
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ MBS (ญี่ปุ่น)
Thai Code Geass (แฟนคลับแห่งแรกในไทย)
บทความเกี่ยวกับการ์ตูนญี่ปุ่นนี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยเพิ่มข้อมูล ดูเพิ่มที่ สถานีย่อย:การ์ตูนญี่ปุ่น
หมวดหมู่: การ์ตูนญี่ปุ่นอะนิเมะการ์ตูนญี่ปุ่นแนวโชเน็งบทความเกี่ยวกับ การ์ตูนญี่ปุ่น ที่ยังไม่สมบูรณ์
อีวานเกเลียน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อีวานเกเลียน มหาสงครามวันพิพากษา
ชื่อไทย อีวานเกเลียน มหาสงครามวันพิพากษา
ชื่อญี่ปุ่น 新世紀エヴァンゲリオン
(ชินเซกิ เอะวานเกริออน)
ชื่ออังกฤษ Neon Genesis Evangelion
ประเภท โชเน็น
แนว วิทยาศาสตร์ แอคชั่น
ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์
ผู้กำกับ ฮิเดอากิ อันโน
ผลิตโดย สตูดิโอไกแน็กซ์
ฉายทาง ทีวีโตเกียว, อนิแมกซ์
ฉายครั้งแรก 4 ตุลาคม 2538 - 27 มีนาคม 2539
จำนวนตอน 26 ตอน
มังงะ
เขียนเรื่อง โยชิยูกิ ซาดาโมโตะ
สำนักพิมพ์ คาโดกาว่า
สยามอินเตอร์คอมิกส์
เมื่อ 2538 – ปัจจุบัน
จำนวนเล่ม 13 เล่ม
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมการ์ตูนญี่ปุ่น
อีวานเกเลียน มหาสงครามวันพิพากษา (ญี่ปุ่น: 新世紀エヴァンゲリオン Shin Seiki Evangelion ชินเซกิ เอะวานเกริออน) ?) หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า Neon Genesis Evangelion หรืออาจเรียกย่อๆ ว่า อีวานเกเลียน, อีวา, NGE เป็นการ์ตูนอะนิเมะชุดสำหรับฉายทางสถานีโทรทัศน์ สร้างโดยสตูดิโอไกแน็กซ์ (Gainax) เขียนบทและกำกับโดย ฮิเดอากิ อันโน (ญี่ปุ่น: 庵野秀明 Anno Hideaki ?) และร่วมผลิตโดยทีวีโตเกียว และ Nihon Ad Systems เริ่มฉายในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2538 เป็นการ์ตูนอะนิเมะที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ทั้งในด้านความนิยม ด้านการค้า นอกจากนี้ ยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และมีอิทธิพลอย่างมากต่อวงการอะนิเมะ และสังคมญี่ปุ่นในสมัยนั้น และก่อให้เกิดแฟรนไชส์สินค้าและสื่ออีวานเกเลียนขึ้นมากมาย นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัลอะนิเมะใหญ่หลายรางวัล จนได้รับการยอมรับในหลายๆ แห่งว่า เป็นหนึ่งในการ์ตูนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล (one of the greatest anime of all time) และถือได้ว่าเป็นเรื่องที่เยี่ยมยอดที่สุดและเป็นเรื่องต้นฉบับที่ทำให้การ์ตูนทั้งหมดหลังจากนั้นเป็นยุคใหม่มากกว่าขึ้นอย่างมาก เช่น กันดั้ม เป็นต้น
อีวานเกเลียน ได้หยิบสัญลักษณ์ทางศาสนาของหลักจูเดโอ-คริสเตียน จากพระธรรมปฐมกาล (Book of Genesis) ในคัมภีร์ของศาสนายิว และศาสนาคริสต์ และเรื่องเล่าทางศาสนาต่างๆ มาเป็นแนวดำเนินเรื่อง ในตอนท้ายๆ ได้เน้นไปที่การวิเคราะห์จิตของตัวละครเมื่อสมัยเด็ก (psychoanalysis) ว่าทำไมตัวละครหลักของเรื่องจึงมีนิสัยและการกระทำเช่นนั้น ซึ่งได้แสดงว่าตัวละครนั้นๆ มีปัญหาทางด้านอารมณ์มาแต่เด็ก จนเกิดอาการป่วยทางจิตในที่สุด การเดินเรื่องจะวนเวียนอยู่กับการตั้งคำถามและการตอบซ้ำไปซ้ำมา จนทำให้ตัวละครสับสนว่าสิ่งที่ตัวเองเชื่อมั่นนั้นจริงหรือ ฮิเดอากิ อันโน ผู้กำกับของเรื่อง เคยป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ก่อนที่จะเริ่มสร้างเรื่องนี้ เขาได้นำประสบการณ์ตรงของตัวเองในการที่จะเอาชนะโรคซึมเศร้า มาเป็นแนวความคิดของตัวละคร
เนื้อหา [ซ่อน]
1 เนื้อเรื่อง
1.1 ข้อมูล
2 การออกจำหน่ายสือบันทึกและหนังสือ
2.1 สื่อบันทึก
2.1.1 การ์ตูนชุดฉายทางโทรทัศน์
2.1.2 ภาพยนตร์
2.2 หนังสือ
3 ข้อมูลตัวละครและองค์กร
3.1 องค์การมาร์ดุค (Marduk Organization)
3.2 ชิลเดรน (Children)
3.3 NERV
3.4 SEELE
3.4.1 รายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับองค์กร
3.5 เพื่อนร่วมชั้นเรียนในเนโอโตเกียวแห่งที่3
4 สถานที่
4.1 Neo Tokyo-2
4.2 Neo Tokyo-3
4.3 Gehirn
4.4 Graveyard of Evas
5 ข้อมูลรายละเอียดในเนื้อเรื่อง
6 แรงบันดาลใจ
6.1 ศาสนา
7 อ้างอิง
เนื้อเรื่อง[แก้]
ในปี ค.ศ. 1999 เหล่านักวิจัยได้ค้นพบสัตว์ประหลาดยักษ์หรือเทวทูตตนที่ 1 อดัมที่หลับไหลอยู่ในขั้วโลก พร้อมกับหอกโลกินุส นักวิจัยได้ทำการติดตั้งเครื่องยนต์ S2 ลงในตัวอดัม แต่ทว่าเกิดเหตุผิดพลาดขึ้นเครื่องยนต์ S2 ทำงานย้อนกลับทำให้อดัมได้ตื่นขึ้นมาและใช้พลังงานจากเครื่องยนต์ S2 สร้างเซคันด์อิมแพกต์ที่ขั้วโลกใต้ หลังจากนั้นอดัมได้กลับกลายเป็นตัวอ่อน การเกิดเซคันด์อิมแพกต์เป็นเหตุให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ซึ่งเป็นเหตุทำให้ประชากรของโลกจำนวนมากต้องล้มตายลงเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมด เหล่าผู้นำประเทศระดับสูงจึงได้เริ่มมีการจัดตั้ง สหประชาคมโลกและองค์กรพิทักษ์มนุษยชาติ โดยมีการตั้งเมืองแบบใหม่แทนที่เมืองที่ถูกจมลงในทะเล ที่ชื่อ เนโอโตเกียว แห่งที่ 3 โดยใต้เนโอโตเกียวที่ 3 นั้นมีเทวทูตตนที่ 2 ลิลิธอยู่ เนโอโตเกียวแห่งที่ 3 เป็นเมืองหน้าด่านในการป้องกันโลกจากการจู่โจมของ เทวทูต ด้วยโครงสร้างพิเศษ เพื่อป้องกันการนำ ลิลิธออกมานั่นเอง โดยใช้อาวุธชีวะภาพ Evangelion (โคลนของลิลิธ)
ข้อมูล[แก้]
สูง 40 เมตร (ยกเว้นอีวา 05 )
ความกว้าง 24 เมตร
น้ำหนัก 40,632 กิโลกรัม
แหล่งพลังงาน ไฟฟ้า
อาวุธ มีดสั้น ปืนยาว อาวุธยุทปกรณ์ของเนิรฟ์
การออกจำหน่ายสือบันทึกและหนังสือ[แก้]
สื่อบันทึก[แก้]
การ์ตูนชุดฉายทางโทรทัศน์[แก้]
ถูกฉายเป็นครั้งแรกในวันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 1995 จนถึงวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 1996 ทางช่อง TVTokyo ทั้งหมด 26 ตอนจบ
ในประเทศไทยได้มีการวางจำหน่ายในรูปแบบ วิดีโอ ในปี พ.ศ. 2543 ทั้งหมด 13 ม้วน โดยในแต่ละม้วนจะมี 2 ตอน ผู้ซื้อลิขสิทธิ์มาในปีนั้นคือ TIGA
ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 ได้มีการนำมารีเมก์ทำการบันทึกสื่อจัดจำหน่ายในรูปแบบใหม่ ทั้ง VCD และ DVD) ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ TIGA เช่นเดิม
ภาพยนตร์[แก้]
หลังจากที่มีการฉายจบไปแล้วทางโทรทัศน์ได้มีการนำมาทำเป็นภาพยนตร์ต่ออีก 2 ภาค ภาคต่อสำหรับฉายในโรงภาพยนตร์อีก 3 ตอน และ Remake อีก 4 ตอน ได้แก่
อีวานเกเลียน: จุติภาค (Evangelion: Death and Rebirth) ฉายเมื่อ15มีนาคม1997 ความยาวทั้งสิ้น 115 นาที
อีวานเกเลียน: ปัจฉิมภาค (The End of Evangelion) ฉายเมื่อ19กรกฎาคม1997 ความยาวทั้งสิ้น 87 นาที
10 ปีให้หลังทางต้นสังกัดได้มีโครงการสร้างฉบับหนังโรงใหม่อีกครั้ง โดยมีการสร้างตอนพิเศษอีก 4 ตอน [จัดทำโดยKHARA STUDIOซึ่งแยกตัวออกมาจากGAINAXหลังจากทำภาคNGEเสร็จ]ข้อความตัวเอน โดยเริ่มฉายไปแล้ว 3 ภาค
Evangelion: 1.0 You Are (Not) Alone เนื้อเรื่องส่วนใหญ่เป็นการปรับปรุงเนื้อหาการฉายทางโทรทัศน์ โดยใช้ตอนที่ 1 ถึงตอนที่ 6 จัดทำโดย Studio Khara และกำกับโดยอันโนะ ฮิเดอากิ ผู้กำกับฉายที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 9 กันยายน ค.ศ. 2007 ความยาวทั้งสิ้น 98 นาที และออกฉายในประเทศไทย เมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2008
ต่อมาเมื่อมีการนำมาลงในการจัดจำหน่ายได้มีการปรับปรุงรายละเอียดเป็น เวอร์ชัน 1.01 ก่อนแล้วมีการตัดต่อใหม่ เพิ่มฉากการต่อสู้ใหม่ของตอนที่ 6 ทำมีการเปลี่ยนชื่อไปใช้ Evangelion: 1.11 You Are (Not) Alone
Evangelion: 2.0 You Can (Not) Advance ฉายที่ญี่ปุ่นในวันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 2009 เป็นการปรับปรุงเนื้อหาการฉายทางโทรทัศน์อย่างสิ้นเชิง อ้างอิงเพียงบางตอนของเนื้อเรื่องเดิมเท่านั้น และเพิ่มตัวละครใหม่ มากินามิ มาริ ชิลเดรน คนที่ 5[1] อาจเป็นตัวละครใหม่ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับเนื้อเรื่องด้วย รวมไปถึงคาโอรุ บทบาทของคาโอรุเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก รวมไปถึงบทบาทของอาสึกะ ออกฉายในประเทศไทย เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 2010 ที่โรงภาพยนตร์ลิโด้[2] ความยาว 94 นาที
Evangelion : 2.22 You Can (Not) Advance ภาคดัดแปลงของ Evangelion: 2.0 You Can (Not) Advance
Evangelion : 3.0 You Can (Not) Redo กำหนดเข้าฉายที่ญี่ปุ่นในวันที่17 เดือนพฤศจิกายน ปี2012
Evangelion : 4.0 The Final ชื่ออย่างเป็นทางการของญี่ปุ่นคือ シン・エヴァンゲリオン劇場版:|| (Shin Evangelion Gekijou-ban:|| ชิน เอะวานเกริออน เกะคิโจบัง:||)
โดยสัญลักษณ์นี้ที่ใช้เป็นชื่อภาคนี้ก็คือตัว “Repeat” ในโน็ตดนตรี ยังไม่มีกำหนดฉายที่ชัดเจน
หนังสือ[แก้]
หนังสือการ์ตูน เขียนโดย โยชิยูกิ ซะดะโมโตะ (Yoshiyuki Sadamoto) ผู้ออกแบบตัวละครในฉบับอะนิเมะ
เนื้อเรื่องใช้โครงสร้างและเส้นเวลาแบบเดียวกับฉบับอะนิเมะ แต่จะเดินเรื่องด้วยมุมมองของ อิคาริ ชินจิ และเพิ่มเติมเนื้อหา รายละเอียดหลาย ๆ ส่วนเพื่อให้เนื้อเรื่องสมบูรณ์มากขึ้น และอ่านได้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น แปลและตีพิมพ์เป็นภาคภาษาไทยโดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์
"EVANGELION CHRONICLE "
หนังสือที่รวบรวมข้อมูลในเรื่องทั้งหมดอย่างละเอียด ทั้งหมด 30 เล่ม โดยเป็นการรวบรวมเนื้อหาที่ละเอียดมาที่สุดและครบถ้วนมากที่สุดอีกด้วย
เกม อีวานเกเลียนได้รับการสร้าง เป็นเกมสำหรับเครื่องเล่นเพลย์สเตชันและพีซี ในชื่อตอนว่า Girlfriend of Steel
และ Evangelion: Jo เกม Action Adventure จาก Bandai Namco กำหนดออกวันที่ 4 มิถุนายน 2552 โดยสร้างจากโครงเรื่องรีแมกส์ในตอน Evangelion: 1.11 You Are (Not) Alone ลงบนเครื่อง playstation 2.0
ข้อมูลตัวละครและองค์กร[แก้]
[3]
องค์การมาร์ดุค (Marduk Organization)[แก้]
องค์การมาร์ดุค (Marduk Organization) เป็นองค์การที่ทำหน้าที่ในการหานักบินประจำอีวา ซึ่งมีคุณสมบัติคืออายุ 14 และต้องกำพร้าแม่เท่านั้น โดยองค์การนี้มีสาขาทั้งสิ้น 108 สาขา แต่จะแฝงตัวอยู่ในรูปแบบของบริษัทธรรมดา เมื่อคาจิสืบไปสืบมาจึงได้รู้ว่าองค์การนี้ไม่มีตัวตน เป็นองค์การหลอกๆที่ตั้งโดยเนิร์ฟ (สำหรับชื่อของมาร์ดุคนั้น เป็นชื่อของเทพสูงสุดในศาสนาของชาวเมโสโปเตเมียโบราณ)
ชิลเดรน (Children)[แก้]
ชิลเดรน (Children) คือ เด็กที่อายุตั้งแต่ 14 ปี มีความสามารถในเข้าถึงจิตวิญญาณของหุ่นได้ และมีความสามารถในต่อสู้ทางการเคลื่อนไหวที่สูงมาก โดยปกติจะดูเหมือนนักเรียนธรรมดาทั่วไป
อายานามิ เรย์
อายานามิ เรย์ (ญี่ปุ่น: 綾波 レイ Ayanami Rei ?) เรย์เป็นผู้ขับหุ่นหมายเลข 00 โดยเธอเกิดจากการโคลนนิ่งด้วยการประกอบดีเอ็นเอของยูอิ ซึ่งเป็นแม่ของ ชินจิ กับ ลิลิธ เศษซากเทวทูตตนที่ 2 ที่ถูกผนึกไว้ในเมือง อุปนิสัยเก็บตัวจากสังคม สีหน้าเย็นชา ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ไม่พูดคุยกับใครยกเว้นอิคาริ เก็นโด หลังจากที่ได้รู้จักกับชินจิ ทั้ง 2 คนก็เริ่มสนิทสนมกัน และพัฒนาบุคลิกในการเข้าสังคมมากขึ้น
อิคาริ ชินจิ
อิคาริ ชินจิ (ญี่ปุ่น: 碇 シンジ Ikari Shinji ?) ลูกชายของ อิคาริ เกนโด และยูอิ เป็นเด็กที่ถูกคัดเลือกให้ไปขับอีวา หุ่นหมายเลข 01 โดยมีความสามารถในการเชื่อมต่อกับอีวามากกว่าอาสึกะ และเรย์ ชินจิเป็นเด็กเรียบร้อย และมีจิตใจอ่อนโยน แต่แสดงความรู้สึกไม่เก่ง ไม่มั่นใจในตนเอง และขาดความรัก เพราะแม่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก และถูกพ่อทอดทิ้ง จึงทำให้เมื่ออยู่กับใครก็มักจะอ่อนไหวตามคนนั้น
โซริว อาสึกะ แรงก์เรย์
โซริว อาสึกะ แรงก์เรย์ (ญี่ปุ่น: 惣流・アスカ・ラングレー Sōryū Asuka Rangurē ?) ผู้ขับหุ่นหมายเลข 02 อาสึกะมีความมั่นใจในตัวเองสูง เรียนจบปริญญาตรีที่เยอรมัน และไม่ยอมแพ้ใคร อาสึกะเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นและเยอรมัน ครอบครัวของอาซึกะมีปัญหาในการตั้งครรภ์ จึงได้ทำการนำสเปิร์มจากธนาคารสเปิร์มมาใช้ในการตั้งครรภ์โดยเรียกว่า เด็กหลอดแก้ว อาสึกะใช้ชีวิตอยู่กับพ่อแม่บุญธรรมที่เยอรมัน ต้องทำตัวเป็นเด็กดีตลอด ภายหลังได้รับคำสั่งให้ย้ายมาประจำอยู่ที่ญี่ปุ่น พักอาศัยร่วมกับชินจิและมิซาโตะ จึงได้ใช้ชีวิตแบบปกติ ไม่ต้องแสร้งทำเป็นเด็กดีอีกต่อไป บุคลิกตรงข้ามกับเรย์ และมีความรู้สึกดีๆต่อคาจิที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก
ซุซุฮาร่า โทจิ
ซุซุฮาร่า โทจิ (ญี่ปุ่น: 鈴原 トウジ Suzuhara Tōji ?) เพื่อนร่วมชั้นของชินจิที่ชินจิยอมรับเป็นเพื่อนสนิท โดยในตอนแรกเคียดแค้นชินจิ เนื่องจากขับหุ่นอีวาจนทำให้น้องสาวของตนได้รับบาดเจ็บจากการคลั่งของหุ่น ภายหลังจากหนีออกมาจากที่หลบภัยจน ชินจิเข้าไปช่วย ต่อมาได้รับมอบหมายให้ขับอีวา 03 แต่ไม่สามาถกำจัดเทวทูตได้ จึงถูกสิง และต้องใช้หุ่นหมายเลข 01 ทำลายทิ้งไป
นางิสะ คาโอรุ
นางิสะ คาโอรุ (ญี่ปุ่น: 渚 カヲル Nagisa Kaworu ?) นักบินที่เข้ามาขับอีวา 02 มาแทนที่อาสึกะ ในช่วงที่อาสึกะ สภาพจิตใจอ่อนแอไม่สามารถขับอีวาได้ ถูกส่งมาโดย SEELE ตัวจริงของเขานั้นคือเทวทูตองค์สุดท้าย ที่ถูกชินจิสังหารด้วยความยินยอมของตนเอง
NERV[แก้]
เนิร์ฟ (Nerv ในภาษาเยอรมันคือเส้นประสาท) เป็นองค์การลับที่ขึ้นตรงต่อองค์การสหประชาชาติ และได้รับคำสั่งให้สร้างอีวาเพื่อมารับมือกับเหล่าเทวทูต โดยมี อิคาริ เกนโด เป็นผู้บัญชาการ โดยเนิร์ฟอยู่ภายใต้หน่วยงาน เซเล่ (Seele - ในภาษาเยอรมันคือจิตวิญญาณ) โดยหน่วยงานที่ไม่มีการเปิดเผยรูปร่างหน้าตาโดยใช้เสียงในการออกคำสั่งเท่านั้น
ทำหน้าที่ในการผลิตหุ่นรบอีวานเกเลี่ยน เนื่องจากเตรียมรับมือพวกเทวทูต ซึ่งในตอนแรกองค์การเนิร์ฟยังไม่ได้รับการยอมรับจากกองทัพของภาคพื้นที่เท่า ไหร่ จนกระทั่งพวกกองทัพเหล่านั้นเห็นว่าไม่สามารถทำลายเทวทูตได้จึงได้โอนอำนาจ ให้เนิร์ฟ เดิมทีองค์การนี้เป็นศูนย์วิจัย GEHIRN ต่อมาในปี 2010 จึงได้เปลี่ยนมาเป็นองค์การเนิร์ฟ คำว่า NERV นั้นมาจากภาษาเยอรมัน ซึ่งแปลเป็นอังกฤษก็คือ Nerve ที่แปลว่าระบบประสาท
เนิร์ฟนั้นมีสาขาอยู่ 9 สาขาทั่วโลก ( ในกลุ่ม G - 7 รวมจีนและรัสเซีย ) ศูนย์ใหญ่ของเนิร์ฟอยู่ที่ญี่ปุ่นเมืองฮาโกเนะ อยู่ใต้เมืองเนโอโตเกียวที่ 3 ที่เรียกว่าจีโอ ฟร้อนท์ คำขวัญขององค์การนี้คือ " GOD ' S IN HIS HEAVEN. ALL'S RIGHT WITH THE WORLD "
SEELE[แก้]
เป็นองค์กรที่อยู่เบื้องหลังของเนิร์ฟ เป็นผู้ให้เงินทุน เซเล่ร่วมมือกับยูอิในการพัฒนาอีวามาตั้งแต่เริ่ม ผู้นำขององค์กรนี้ก็คือ " คีล ลอเร้นส์ " และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการปกปิดข่าวเรื่อง 2nd Impact ด้วย รวมทั้งอาจจะเป็นผู้ที่สร้างเทวทูติขึ้นมาโจมตีด้วยซ้ำไป เนื่องจากพวกตนจะได้มีโอกาสในการผลิตหุ่นอีวานเกเลี่ยนต่อไป
ความ เชื่อของเซเล่นั้นเชื่อว่ามนุษยนั้นได้เวลาแล้วที่จะพัฒนาเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อมีชีวิตที่เป็นนิรันดร์จึงได้ร่วมมือกับเก็นโดในการตั้งแผนพัฒนา มนุษยชาติขึ้นมา
สำหรับชื่อ SEELE นั้นมาจากภาษาเยอรมัน แปลเป็นอังกฤษก็คือ " SOUL " ที่แปลว่าวิญญาณนั่นเอง
รายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับองค์กร[แก้]
อิคาริ เก็นโด
พ่อของอิคาริ ชินจิ ชื่อเดิม โรคุบุนงิ เก็นโด เป็นผู้บัญชาการสูงสุดขององค์การเนิร์ฟ หน่วยงานซึ่งทำตามแผนการลับที่ถูกกำหนดนโยบายมาโดยตรงจากองค์การเซเล่ องค์การซึ่งต้องการนำมนุษยชาติ ไปสู่ภาวะนิรันดร์ตามพันธะสัญญาในพระคัมภีร์ แต่โดยส่วนตัวลึกๆ แล้ว ผบ.อิคาริ ก็มีแผนในใจของตนเองที่จะทรยศต่อองค์การเซเล่เช่นกัน ชอบทำท่าทีเย็นชาใส่ชินจิ ไม่ใช่ว่าไม่ใส่ใจ แต่เป็นคนแสดงอารมณ์ไม่เก่งเท่าที่ควร เดิมที่มีนามสกุลว่าโรคุบุนงิ หลังจากการแต่งงานกับยูอิแล้ว จึงเปลี่ยนมาใช้นามสกุลตามภรรยา (คนส่วนหนึ่งในญี่ปุ่น ฝ่ายชายจะเปลี่ยนตามภรรยา)
คัตซึรางิ มิซาโตะ
คัตซึรางิ มิซาโตะ (ญี่ปุ่น: 葛城 ミサト Katsuragi Misato ?) สังกัดแผนก 1 กองแผนการรบ ฝ่ายเสนาธิการ ในฐานะผู้พัน ของกองบัญชาการเนิร์ฟ เป็นผู้ดูแลฝ่ายยุทธการของเนิร์ฟ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บังคับบัญชาของชินจิ และในทางปฏิบัติก็เป็นผู้ปกครองของชินจิอีกด้วย เธอมีหน้าที่สั่งการยามเกิดการสู้รบกับเหล่าเทวทูต เธอเป็นคนง่ายๆ ทำตัวตามสบาย แต่บางครั้งออกจะปล่อยตัวไปสักหน่อย และมีนิสัยค่อนข้างใจร้อน เคยเป็นคนรักกับคาจิ และเป็นคนเดียวที่รอดจากคณะสำรวจที่ขั้วโลกใต้ในเหตุการณ์ Second Impact ซึ่งในเรื่องจะเห็นว่ามิซาโตะมีแผลเป็นอยู่ที่ท้อง
ดร.อาคางิ ริตสึโกะ
นักวิทยาศาสตร์ผู้เก่งกาจ สังกัดฝ่ายเทคนิคที่ 1 หน่วยพัฒนากองบัญชาการเนิร์ฟ เป็นผู้รับผิดชอบการพัฒนาหุ่นอีวา เป็นลูกสาวของนาโอโกะผู้คิดค้นระบบเมไจ (Magi) เป็นผู้คอยซ่อมแซมและดูแลเมไจ ซึ่งในเมไจได้บรรจุสมองของนาโอโกะมารดาของเธอ เธอรู้ความลับของอีวาและองค์กรมากมาย เธอเป็นเพื่อนสนิทกับมิซาโตะ เป็นคนใจเย็น เงียบขรึมเรียบร้อย ซึ่งตรงข้ามกับมิซาโตะ
เรียวจิ คาจิ
เป็นเจ้าหน้าที่คนหนึ่งในองค์การเนิร์ฟ เป็นอดีตคนรักของมิซาโตะ เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจตราการทำงานของเนิร์ฟ และเจ้าหน้าที่สำรวจข้อมูล กระทรวงมหาดไทย สังกัดรัฐบาลญี่ปุ่นแต่แท้จริงแล้วเป็นสายลับของรัฐบาล ทำหน้าที่เป็นสายลับสองหน้า ให้กับทั้งรัฐบาลญี่ปุ่น และเนิร์ฟ เขาไม่ใช่คนเลว แต่กลับมีความเข้าใจชีวิตอย่างลึกซึ้ง เป็นคนที่มีบุคลิกทะเล้น เจ้าชู้ อ่อนโยน เศร้า และอบอุ่น รวมกัน เป็นตัวละครที่น่าสนใจคนหนึ่ง เป็นแบบอย่างของคนที่มีบุคลิกเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ ที่มนุษย์เราควรจะเป็น ท่ามกลางบุคลิกผู้ใหญ่ของตัวละครอื่นๆ ที่มีความบกพร่องปะปนอยู่
ฟุยุสึกิ โคโซ
เป็นรอง ผบ.เนิร์ฟ เป็นผู้ที่รู้เรื่องราวทั้งหมด ส่วนใหญ่จะอยู่กับเก็นโดตลอด เป็นผู้ร่วมเก็บงำความลับระหว่างองค์การเซเล่กับอิคาริเกนโด ในอดีตเคยเป็นอาจารย์สอนของอิคาริเกนโด รวมไปถึงสมาชิกในองค์การเซเล่อีกด้วย
อิบูกิ มายะ
เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคคอมพิวเตอร์ ในเนิร์ฟ นับถือ ริทซึโกะมาก
ชิเงรุ โอบะ
เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคคอมพิวเตอร์
เฮียวกะ มาโคโตะ
เป็นเจ้าหน้าที่เช่นเดียวกับมายะ คอยเป็นสายสืบให้กับมิซาโตะ เพราะแอบหลงรักมิซาโตะ
อิคาริ ยูอิ
แม่ของชินจิ เสียชีวิตไประหว่างการทดลองเดินครื่องอีวาหมายเลข 01 โดยสูญเสียสภาพร่างกายไปหลงเหลือแต่จิตวิญญาณใน Link Connect Liquid ของเหลวสำหรับเดินเครื่องหุ่น
เพื่อนร่วมชั้นเรียนในเนโอโตเกียวแห่งที่3[แก้]
ไอดะ เคนสุเกะ
เป็นเพื่อนร่วมชั้นของชินจิ มีความใฝ่ฝันที่จะได้ขับอีวานเกเลี่ยน
โฮรากิ ฮิคาริ
เป็นหัวหน้าชั้นของชินจิ สนิทกับอาสึกะ และแอบรักโทจิ
สถานที่[แก้]
Neo Tokyo-2[แก้]
เป็นสาขาย่อยของเนิร์ฟในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองมัตสึชิโร่ โดยเป็นสถานที่ที่ใช้ในการทดลองอีวา 03 และได้เกิดระเบิดไปเนื่องจากอีวา 03 ถูกเทวทูตเข้าสิงและอาละวาด
Neo Tokyo-3[แก้]
เป็นเมืองที่สร้างขึ้นเพื่อเตรียมรับการโจมตีจากเทวทูตโดยเฉพาะ ถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า " เมืองป้อมปราการ " ตั้งอยู่ที่ฮาโกเนะ โดยข้างใต้เมืองก็คือจีโอ ฟร้อนท์ที่ทำงานของเนิร์ฟนั่นเอง เมืองเนโอโตเกียวประกอบไปด้วยตึกต่างๆที่ใช้ในการรบกับเทวทูติ ตึกบางตึกสามารถเก็บลงไปใต้ดินได้ ซึ่งอาจจะเป็นตึกสำนักงานทางธุกิจของเอกชนที่ไม่เกี่ยวข้อง จะเหลือไว้แต่ตึกป้อมปราการ ( Armament Building ) เท่านั้น
Gehirn[แก้]
เป็นสถานีวิจัยค้นคว้าเก่าก่อนที่จะมาเป็นองค์การเนิร์ฟ โดยวิจัยในเรื่องแผนพัฒนามนุษยชาติ สมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งในตอนแรกคือ เก็นโด ,นาโอโกะ ,ฟุยุสึกิ ต่อมาเมื่อเมไจเสร็จสิ้น สถานีวิจัยนี้จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นองค์การเนิร์ฟในปี 2010
Graveyard of Evas[แก้]
สุสานของหุ่นอีวาที่ใช่ในการทดลอง อยู่ในเซ็ลทรัล ด้อกม่า ในอดีตสถานที่แห่งนี้เป็นที่ที่ใช้ในการทดลองและพัฒนาอีวานเกเลี่ยน รวมถึงระบบเมไจด้วย แต่หลังจากที่การทดลองซิงโครว์กับอีวาครั้งแรกของยูอิได้เกิดล้มเหลว สถานที่แห่งนี้ก็ถูกทิ้งร้างและเปลี่ยนสภาพกลายเป็นแค่ทิ้งขยะอีวาที่ล้ม เหลวเท่านั้น
ข้อมูลรายละเอียดในเนื้อเรื่อง[แก้]
ดูเพิ่มเติมที่ ข้อมูลอุปกรณ์และความหมายในเรื่องอีวานเกเลียน
แรงบันดาลใจ[แก้]
อีวานเกเลียน ตลอดเรื่องอัดแน่ไปด้วยการอ้างถึงหลักการต่างๆ ทั้งทางชีววิทยา การทหาร ศาสนา และจิตวิทยา ซึ่งเป็นการเดินตามแนวทางของการ์ตูนแอนิเมชันรุ่นพี่อีกหลายเรื่อง ตัวอย่างเช่น เรือรบอวกาศยามาโตะ (ญี่ปุ่น: 宇宙戦艦ヤマト Uchū Senkan Yamato ?) ฮิเดอากิ อันโน นักเขียนของเรื่อง ได้แรงบันดาลใจหลายอย่างจากซิกมุนด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) นักจิตวิทยาผู้ยิ่งใหญ่ชาวออสเตรีย ทั้งจากประโยคที่ฟรอยด์เคยพูด ทฤษฎีจิตวิทยาเชิงวิเคราะห์ของฟรอยด์ เช่นเดียวกับ หลักการทางศาสนาและชีววิทยาที่อันโนะมักนำมาใช้เพื่อสื่อความหมายต่างๆ ในการ์ตูนของเขา ด้วยเหตุผลข้างนี้ ทำให้อันโนะมักถูกวิจารณ์ว่าเป็นพวกชอบขโมยความคิด หรือก็แค่งานที่มาจากความคิดของทีมงานเท่านั้น
ศาสนา[แก้]
สัญลักษณ์เชิงศาสนาที่ถูกใช้ใน อีวานเกเลียน ส่วนใหญ่นั้น ได้แรงบันดาลใจมาจากจูเดโอ-คริสเตียน หรือความเชื่อในศาสนาคริสต์ที่มารากฐานมาจากศาสนายิว สัญลักษณ์ศาสนาดังกล่าวถูกนำมาจากหลายศาสนา ได้แก่ ศาสนายิว ศาสนาคริสต์ นอซทิสซึม (ลัทธิเหตุผล) และ กับบะลาห์ (Kabbalah: ศาสตร์เร้นลับของชาวยิว)
ทสึรุมะคิ คะสุยะ (ญี่ปุ่น: 鶴巻 和哉 Tsurumaki Kazuya ?) ผู้ช่วยผู้กำกับ กล่าวว่า ในตอนแรก การ์ตูนเรื่องนี้ใช้สัญลักษณ์ทางศาสนาคริสต์แค่เพื่อให้แตกต่างจากการ์ตูนหุ่นยนต์สู้กันเรื่องอื่นๆ และไม่มีความหมายอะไรมากกว่านั้น แต่การใช้สัญลักษณ์นี้โดยผู้ที่ไม่รู้ความหมายก็กลับการเป็นจุดอ่อนได้เหมือนกัน
สัญลักษณ์ทางศาสนาใน อีวานเกเลียน สามารถตีความเบื้องต้นอย่างง่ายๆ ดังนี้
อาดัม และ อีฟ (เอวา) บอกถึงมนุษย์คู่แรกของโลก ตามพระธรรมปฐมกาล (Book of Genesis) ในคัมภีร์ของศาสนายิว และศาสนาคริสต์ โดยอีฟ เกิดมาจากซี่โครงของอาดัม เช่นเดียวกับในการ์ตูน ที่หุ่นยนต์อีวา (Eva) ทั้งหลาย มีต้นกำเนิดมาจากเทวทูต (Angel) ตนแรก คือ อดัม นั่นเอง
ไม้กางเขน เห็นได้บ่อย โดยเป็นรูปร่างของลำแสงระเบิดโดยเทวทูต (Angel) เหมือนลำแสงจากสรวงสวรรค์
เทวทูต (Angel) อาจจะหมายถึงเทวดาตามคติความเชื่อของศาสนาคริสต์ ตามพันธสัญญาเดิม รวมถึง ทูตสวรรค์ หรือผู้นำสารจากพระเจ้า ตามพันธสัญญาใหม่
อ้างอิง[แก้]
กระโดดขึ้น ↑ สารานุกรม Neon Genesis Evangelion
กระโดดขึ้น ↑ การคืนชีพมหากาพย์ การ์ตูน Sci-Fi ฟอร์มยักษ์ อีวานเกเลี่ยน: 2.0
กระโดดขึ้น ↑ http://web.archive.org/20090430185608/www.geocities.com/tat_jung/eva02.html
[ซ่อน] ด พ ก
อีวานเกเลียน มหาสงครามวันพิพากษา
ตัวละครหลัก
อิคาริ ชินจิ อายานามิ เรย์ โซริว อาสึกะ แรงก์เรย์ ซุซุฮารา โทจิ นางิสะ คาโอรุ คัตสึรางิ มิซาโตะ อาคางิ ริตสึโกะ อิคาริ เก็นโด เรียวจิ คาจิ อิคาริ ยูอิ
ฉบับโทรทัศน์
ภาคหลัก
ฉบับภาพยนตร์
จุติภาค ปัจฉิมภาค รีบิวด์ออฟอีวานเกเลียน (1.0 กำเนิดใหม่วันพิพากษา 2.0 อุบัติการณ์วันล้างโลก)
ข้อมูลอื่น ๆ
ตัวละคร เทวทูต อุปกรณ์ สถานที่
โครงการ · หมวดหมู่ · สถานีย่อย
หมวดหมู่: การ์ตูนญี่ปุ่นอะนิเมะมังงะอีวานเกเลียนการ์ตูนญี่ปุ่นแนวโชเน็ง
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อีวานเกเลียน มหาสงครามวันพิพากษา
ชื่อไทย อีวานเกเลียน มหาสงครามวันพิพากษา
ชื่อญี่ปุ่น 新世紀エヴァンゲリオン
(ชินเซกิ เอะวานเกริออน)
ชื่ออังกฤษ Neon Genesis Evangelion
ประเภท โชเน็น
แนว วิทยาศาสตร์ แอคชั่น
ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์
ผู้กำกับ ฮิเดอากิ อันโน
ผลิตโดย สตูดิโอไกแน็กซ์
ฉายทาง ทีวีโตเกียว, อนิแมกซ์
ฉายครั้งแรก 4 ตุลาคม 2538 - 27 มีนาคม 2539
จำนวนตอน 26 ตอน
มังงะ
เขียนเรื่อง โยชิยูกิ ซาดาโมโตะ
สำนักพิมพ์ คาโดกาว่า
สยามอินเตอร์คอมิกส์
เมื่อ 2538 – ปัจจุบัน
จำนวนเล่ม 13 เล่ม
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมการ์ตูนญี่ปุ่น
อีวานเกเลียน มหาสงครามวันพิพากษา (ญี่ปุ่น: 新世紀エヴァンゲリオン Shin Seiki Evangelion ชินเซกิ เอะวานเกริออน) ?) หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า Neon Genesis Evangelion หรืออาจเรียกย่อๆ ว่า อีวานเกเลียน, อีวา, NGE เป็นการ์ตูนอะนิเมะชุดสำหรับฉายทางสถานีโทรทัศน์ สร้างโดยสตูดิโอไกแน็กซ์ (Gainax) เขียนบทและกำกับโดย ฮิเดอากิ อันโน (ญี่ปุ่น: 庵野秀明 Anno Hideaki ?) และร่วมผลิตโดยทีวีโตเกียว และ Nihon Ad Systems เริ่มฉายในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2538 เป็นการ์ตูนอะนิเมะที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ทั้งในด้านความนิยม ด้านการค้า นอกจากนี้ ยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และมีอิทธิพลอย่างมากต่อวงการอะนิเมะ และสังคมญี่ปุ่นในสมัยนั้น และก่อให้เกิดแฟรนไชส์สินค้าและสื่ออีวานเกเลียนขึ้นมากมาย นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัลอะนิเมะใหญ่หลายรางวัล จนได้รับการยอมรับในหลายๆ แห่งว่า เป็นหนึ่งในการ์ตูนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล (one of the greatest anime of all time) และถือได้ว่าเป็นเรื่องที่เยี่ยมยอดที่สุดและเป็นเรื่องต้นฉบับที่ทำให้การ์ตูนทั้งหมดหลังจากนั้นเป็นยุคใหม่มากกว่าขึ้นอย่างมาก เช่น กันดั้ม เป็นต้น
อีวานเกเลียน ได้หยิบสัญลักษณ์ทางศาสนาของหลักจูเดโอ-คริสเตียน จากพระธรรมปฐมกาล (Book of Genesis) ในคัมภีร์ของศาสนายิว และศาสนาคริสต์ และเรื่องเล่าทางศาสนาต่างๆ มาเป็นแนวดำเนินเรื่อง ในตอนท้ายๆ ได้เน้นไปที่การวิเคราะห์จิตของตัวละครเมื่อสมัยเด็ก (psychoanalysis) ว่าทำไมตัวละครหลักของเรื่องจึงมีนิสัยและการกระทำเช่นนั้น ซึ่งได้แสดงว่าตัวละครนั้นๆ มีปัญหาทางด้านอารมณ์มาแต่เด็ก จนเกิดอาการป่วยทางจิตในที่สุด การเดินเรื่องจะวนเวียนอยู่กับการตั้งคำถามและการตอบซ้ำไปซ้ำมา จนทำให้ตัวละครสับสนว่าสิ่งที่ตัวเองเชื่อมั่นนั้นจริงหรือ ฮิเดอากิ อันโน ผู้กำกับของเรื่อง เคยป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ก่อนที่จะเริ่มสร้างเรื่องนี้ เขาได้นำประสบการณ์ตรงของตัวเองในการที่จะเอาชนะโรคซึมเศร้า มาเป็นแนวความคิดของตัวละคร
เนื้อหา [ซ่อน]
1 เนื้อเรื่อง
1.1 ข้อมูล
2 การออกจำหน่ายสือบันทึกและหนังสือ
2.1 สื่อบันทึก
2.1.1 การ์ตูนชุดฉายทางโทรทัศน์
2.1.2 ภาพยนตร์
2.2 หนังสือ
3 ข้อมูลตัวละครและองค์กร
3.1 องค์การมาร์ดุค (Marduk Organization)
3.2 ชิลเดรน (Children)
3.3 NERV
3.4 SEELE
3.4.1 รายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับองค์กร
3.5 เพื่อนร่วมชั้นเรียนในเนโอโตเกียวแห่งที่3
4 สถานที่
4.1 Neo Tokyo-2
4.2 Neo Tokyo-3
4.3 Gehirn
4.4 Graveyard of Evas
5 ข้อมูลรายละเอียดในเนื้อเรื่อง
6 แรงบันดาลใจ
6.1 ศาสนา
7 อ้างอิง
เนื้อเรื่อง[แก้]
ในปี ค.ศ. 1999 เหล่านักวิจัยได้ค้นพบสัตว์ประหลาดยักษ์หรือเทวทูตตนที่ 1 อดัมที่หลับไหลอยู่ในขั้วโลก พร้อมกับหอกโลกินุส นักวิจัยได้ทำการติดตั้งเครื่องยนต์ S2 ลงในตัวอดัม แต่ทว่าเกิดเหตุผิดพลาดขึ้นเครื่องยนต์ S2 ทำงานย้อนกลับทำให้อดัมได้ตื่นขึ้นมาและใช้พลังงานจากเครื่องยนต์ S2 สร้างเซคันด์อิมแพกต์ที่ขั้วโลกใต้ หลังจากนั้นอดัมได้กลับกลายเป็นตัวอ่อน การเกิดเซคันด์อิมแพกต์เป็นเหตุให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ซึ่งเป็นเหตุทำให้ประชากรของโลกจำนวนมากต้องล้มตายลงเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมด เหล่าผู้นำประเทศระดับสูงจึงได้เริ่มมีการจัดตั้ง สหประชาคมโลกและองค์กรพิทักษ์มนุษยชาติ โดยมีการตั้งเมืองแบบใหม่แทนที่เมืองที่ถูกจมลงในทะเล ที่ชื่อ เนโอโตเกียว แห่งที่ 3 โดยใต้เนโอโตเกียวที่ 3 นั้นมีเทวทูตตนที่ 2 ลิลิธอยู่ เนโอโตเกียวแห่งที่ 3 เป็นเมืองหน้าด่านในการป้องกันโลกจากการจู่โจมของ เทวทูต ด้วยโครงสร้างพิเศษ เพื่อป้องกันการนำ ลิลิธออกมานั่นเอง โดยใช้อาวุธชีวะภาพ Evangelion (โคลนของลิลิธ)
ข้อมูล[แก้]
สูง 40 เมตร (ยกเว้นอีวา 05 )
ความกว้าง 24 เมตร
น้ำหนัก 40,632 กิโลกรัม
แหล่งพลังงาน ไฟฟ้า
อาวุธ มีดสั้น ปืนยาว อาวุธยุทปกรณ์ของเนิรฟ์
การออกจำหน่ายสือบันทึกและหนังสือ[แก้]
สื่อบันทึก[แก้]
การ์ตูนชุดฉายทางโทรทัศน์[แก้]
ถูกฉายเป็นครั้งแรกในวันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 1995 จนถึงวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 1996 ทางช่อง TVTokyo ทั้งหมด 26 ตอนจบ
ในประเทศไทยได้มีการวางจำหน่ายในรูปแบบ วิดีโอ ในปี พ.ศ. 2543 ทั้งหมด 13 ม้วน โดยในแต่ละม้วนจะมี 2 ตอน ผู้ซื้อลิขสิทธิ์มาในปีนั้นคือ TIGA
ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 ได้มีการนำมารีเมก์ทำการบันทึกสื่อจัดจำหน่ายในรูปแบบใหม่ ทั้ง VCD และ DVD) ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ TIGA เช่นเดิม
ภาพยนตร์[แก้]
หลังจากที่มีการฉายจบไปแล้วทางโทรทัศน์ได้มีการนำมาทำเป็นภาพยนตร์ต่ออีก 2 ภาค ภาคต่อสำหรับฉายในโรงภาพยนตร์อีก 3 ตอน และ Remake อีก 4 ตอน ได้แก่
อีวานเกเลียน: จุติภาค (Evangelion: Death and Rebirth) ฉายเมื่อ15มีนาคม1997 ความยาวทั้งสิ้น 115 นาที
อีวานเกเลียน: ปัจฉิมภาค (The End of Evangelion) ฉายเมื่อ19กรกฎาคม1997 ความยาวทั้งสิ้น 87 นาที
10 ปีให้หลังทางต้นสังกัดได้มีโครงการสร้างฉบับหนังโรงใหม่อีกครั้ง โดยมีการสร้างตอนพิเศษอีก 4 ตอน [จัดทำโดยKHARA STUDIOซึ่งแยกตัวออกมาจากGAINAXหลังจากทำภาคNGEเสร็จ]ข้อความตัวเอน โดยเริ่มฉายไปแล้ว 3 ภาค
Evangelion: 1.0 You Are (Not) Alone เนื้อเรื่องส่วนใหญ่เป็นการปรับปรุงเนื้อหาการฉายทางโทรทัศน์ โดยใช้ตอนที่ 1 ถึงตอนที่ 6 จัดทำโดย Studio Khara และกำกับโดยอันโนะ ฮิเดอากิ ผู้กำกับฉายที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 9 กันยายน ค.ศ. 2007 ความยาวทั้งสิ้น 98 นาที และออกฉายในประเทศไทย เมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2008
ต่อมาเมื่อมีการนำมาลงในการจัดจำหน่ายได้มีการปรับปรุงรายละเอียดเป็น เวอร์ชัน 1.01 ก่อนแล้วมีการตัดต่อใหม่ เพิ่มฉากการต่อสู้ใหม่ของตอนที่ 6 ทำมีการเปลี่ยนชื่อไปใช้ Evangelion: 1.11 You Are (Not) Alone
Evangelion: 2.0 You Can (Not) Advance ฉายที่ญี่ปุ่นในวันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 2009 เป็นการปรับปรุงเนื้อหาการฉายทางโทรทัศน์อย่างสิ้นเชิง อ้างอิงเพียงบางตอนของเนื้อเรื่องเดิมเท่านั้น และเพิ่มตัวละครใหม่ มากินามิ มาริ ชิลเดรน คนที่ 5[1] อาจเป็นตัวละครใหม่ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับเนื้อเรื่องด้วย รวมไปถึงคาโอรุ บทบาทของคาโอรุเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก รวมไปถึงบทบาทของอาสึกะ ออกฉายในประเทศไทย เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 2010 ที่โรงภาพยนตร์ลิโด้[2] ความยาว 94 นาที
Evangelion : 2.22 You Can (Not) Advance ภาคดัดแปลงของ Evangelion: 2.0 You Can (Not) Advance
Evangelion : 3.0 You Can (Not) Redo กำหนดเข้าฉายที่ญี่ปุ่นในวันที่17 เดือนพฤศจิกายน ปี2012
Evangelion : 4.0 The Final ชื่ออย่างเป็นทางการของญี่ปุ่นคือ シン・エヴァンゲリオン劇場版:|| (Shin Evangelion Gekijou-ban:|| ชิน เอะวานเกริออน เกะคิโจบัง:||)
โดยสัญลักษณ์นี้ที่ใช้เป็นชื่อภาคนี้ก็คือตัว “Repeat” ในโน็ตดนตรี ยังไม่มีกำหนดฉายที่ชัดเจน
หนังสือ[แก้]
หนังสือการ์ตูน เขียนโดย โยชิยูกิ ซะดะโมโตะ (Yoshiyuki Sadamoto) ผู้ออกแบบตัวละครในฉบับอะนิเมะ
เนื้อเรื่องใช้โครงสร้างและเส้นเวลาแบบเดียวกับฉบับอะนิเมะ แต่จะเดินเรื่องด้วยมุมมองของ อิคาริ ชินจิ และเพิ่มเติมเนื้อหา รายละเอียดหลาย ๆ ส่วนเพื่อให้เนื้อเรื่องสมบูรณ์มากขึ้น และอ่านได้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น แปลและตีพิมพ์เป็นภาคภาษาไทยโดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์
"EVANGELION CHRONICLE "
หนังสือที่รวบรวมข้อมูลในเรื่องทั้งหมดอย่างละเอียด ทั้งหมด 30 เล่ม โดยเป็นการรวบรวมเนื้อหาที่ละเอียดมาที่สุดและครบถ้วนมากที่สุดอีกด้วย
เกม อีวานเกเลียนได้รับการสร้าง เป็นเกมสำหรับเครื่องเล่นเพลย์สเตชันและพีซี ในชื่อตอนว่า Girlfriend of Steel
และ Evangelion: Jo เกม Action Adventure จาก Bandai Namco กำหนดออกวันที่ 4 มิถุนายน 2552 โดยสร้างจากโครงเรื่องรีแมกส์ในตอน Evangelion: 1.11 You Are (Not) Alone ลงบนเครื่อง playstation 2.0
ข้อมูลตัวละครและองค์กร[แก้]
[3]
องค์การมาร์ดุค (Marduk Organization)[แก้]
องค์การมาร์ดุค (Marduk Organization) เป็นองค์การที่ทำหน้าที่ในการหานักบินประจำอีวา ซึ่งมีคุณสมบัติคืออายุ 14 และต้องกำพร้าแม่เท่านั้น โดยองค์การนี้มีสาขาทั้งสิ้น 108 สาขา แต่จะแฝงตัวอยู่ในรูปแบบของบริษัทธรรมดา เมื่อคาจิสืบไปสืบมาจึงได้รู้ว่าองค์การนี้ไม่มีตัวตน เป็นองค์การหลอกๆที่ตั้งโดยเนิร์ฟ (สำหรับชื่อของมาร์ดุคนั้น เป็นชื่อของเทพสูงสุดในศาสนาของชาวเมโสโปเตเมียโบราณ)
ชิลเดรน (Children)[แก้]
ชิลเดรน (Children) คือ เด็กที่อายุตั้งแต่ 14 ปี มีความสามารถในเข้าถึงจิตวิญญาณของหุ่นได้ และมีความสามารถในต่อสู้ทางการเคลื่อนไหวที่สูงมาก โดยปกติจะดูเหมือนนักเรียนธรรมดาทั่วไป
อายานามิ เรย์ (ญี่ปุ่น: 綾波 レイ Ayanami Rei ?) เรย์เป็นผู้ขับหุ่นหมายเลข 00 โดยเธอเกิดจากการโคลนนิ่งด้วยการประกอบดีเอ็นเอของยูอิ ซึ่งเป็นแม่ของ ชินจิ กับ ลิลิธ เศษซากเทวทูตตนที่ 2 ที่ถูกผนึกไว้ในเมือง อุปนิสัยเก็บตัวจากสังคม สีหน้าเย็นชา ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ไม่พูดคุยกับใครยกเว้นอิคาริ เก็นโด หลังจากที่ได้รู้จักกับชินจิ ทั้ง 2 คนก็เริ่มสนิทสนมกัน และพัฒนาบุคลิกในการเข้าสังคมมากขึ้น
อิคาริ ชินจิ
อิคาริ ชินจิ (ญี่ปุ่น: 碇 シンジ Ikari Shinji ?) ลูกชายของ อิคาริ เกนโด และยูอิ เป็นเด็กที่ถูกคัดเลือกให้ไปขับอีวา หุ่นหมายเลข 01 โดยมีความสามารถในการเชื่อมต่อกับอีวามากกว่าอาสึกะ และเรย์ ชินจิเป็นเด็กเรียบร้อย และมีจิตใจอ่อนโยน แต่แสดงความรู้สึกไม่เก่ง ไม่มั่นใจในตนเอง และขาดความรัก เพราะแม่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก และถูกพ่อทอดทิ้ง จึงทำให้เมื่ออยู่กับใครก็มักจะอ่อนไหวตามคนนั้น
โซริว อาสึกะ แรงก์เรย์
โซริว อาสึกะ แรงก์เรย์ (ญี่ปุ่น: 惣流・アスカ・ラングレー Sōryū Asuka Rangurē ?) ผู้ขับหุ่นหมายเลข 02 อาสึกะมีความมั่นใจในตัวเองสูง เรียนจบปริญญาตรีที่เยอรมัน และไม่ยอมแพ้ใคร อาสึกะเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นและเยอรมัน ครอบครัวของอาซึกะมีปัญหาในการตั้งครรภ์ จึงได้ทำการนำสเปิร์มจากธนาคารสเปิร์มมาใช้ในการตั้งครรภ์โดยเรียกว่า เด็กหลอดแก้ว อาสึกะใช้ชีวิตอยู่กับพ่อแม่บุญธรรมที่เยอรมัน ต้องทำตัวเป็นเด็กดีตลอด ภายหลังได้รับคำสั่งให้ย้ายมาประจำอยู่ที่ญี่ปุ่น พักอาศัยร่วมกับชินจิและมิซาโตะ จึงได้ใช้ชีวิตแบบปกติ ไม่ต้องแสร้งทำเป็นเด็กดีอีกต่อไป บุคลิกตรงข้ามกับเรย์ และมีความรู้สึกดีๆต่อคาจิที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก
ซุซุฮาร่า โทจิ
ซุซุฮาร่า โทจิ (ญี่ปุ่น: 鈴原 トウジ Suzuhara Tōji ?) เพื่อนร่วมชั้นของชินจิที่ชินจิยอมรับเป็นเพื่อนสนิท โดยในตอนแรกเคียดแค้นชินจิ เนื่องจากขับหุ่นอีวาจนทำให้น้องสาวของตนได้รับบาดเจ็บจากการคลั่งของหุ่น ภายหลังจากหนีออกมาจากที่หลบภัยจน ชินจิเข้าไปช่วย ต่อมาได้รับมอบหมายให้ขับอีวา 03 แต่ไม่สามาถกำจัดเทวทูตได้ จึงถูกสิง และต้องใช้หุ่นหมายเลข 01 ทำลายทิ้งไป
นางิสะ คาโอรุ
นางิสะ คาโอรุ (ญี่ปุ่น: 渚 カヲル Nagisa Kaworu ?) นักบินที่เข้ามาขับอีวา 02 มาแทนที่อาสึกะ ในช่วงที่อาสึกะ สภาพจิตใจอ่อนแอไม่สามารถขับอีวาได้ ถูกส่งมาโดย SEELE ตัวจริงของเขานั้นคือเทวทูตองค์สุดท้าย ที่ถูกชินจิสังหารด้วยความยินยอมของตนเอง
NERV[แก้]
เนิร์ฟ (Nerv ในภาษาเยอรมันคือเส้นประสาท) เป็นองค์การลับที่ขึ้นตรงต่อองค์การสหประชาชาติ และได้รับคำสั่งให้สร้างอีวาเพื่อมารับมือกับเหล่าเทวทูต โดยมี อิคาริ เกนโด เป็นผู้บัญชาการ โดยเนิร์ฟอยู่ภายใต้หน่วยงาน เซเล่ (Seele - ในภาษาเยอรมันคือจิตวิญญาณ) โดยหน่วยงานที่ไม่มีการเปิดเผยรูปร่างหน้าตาโดยใช้เสียงในการออกคำสั่งเท่านั้น
ทำหน้าที่ในการผลิตหุ่นรบอีวานเกเลี่ยน เนื่องจากเตรียมรับมือพวกเทวทูต ซึ่งในตอนแรกองค์การเนิร์ฟยังไม่ได้รับการยอมรับจากกองทัพของภาคพื้นที่เท่า ไหร่ จนกระทั่งพวกกองทัพเหล่านั้นเห็นว่าไม่สามารถทำลายเทวทูตได้จึงได้โอนอำนาจ ให้เนิร์ฟ เดิมทีองค์การนี้เป็นศูนย์วิจัย GEHIRN ต่อมาในปี 2010 จึงได้เปลี่ยนมาเป็นองค์การเนิร์ฟ คำว่า NERV นั้นมาจากภาษาเยอรมัน ซึ่งแปลเป็นอังกฤษก็คือ Nerve ที่แปลว่าระบบประสาท
เนิร์ฟนั้นมีสาขาอยู่ 9 สาขาทั่วโลก ( ในกลุ่ม G - 7 รวมจีนและรัสเซีย ) ศูนย์ใหญ่ของเนิร์ฟอยู่ที่ญี่ปุ่นเมืองฮาโกเนะ อยู่ใต้เมืองเนโอโตเกียวที่ 3 ที่เรียกว่าจีโอ ฟร้อนท์ คำขวัญขององค์การนี้คือ " GOD ' S IN HIS HEAVEN. ALL'S RIGHT WITH THE WORLD "
SEELE[แก้]
เป็นองค์กรที่อยู่เบื้องหลังของเนิร์ฟ เป็นผู้ให้เงินทุน เซเล่ร่วมมือกับยูอิในการพัฒนาอีวามาตั้งแต่เริ่ม ผู้นำขององค์กรนี้ก็คือ " คีล ลอเร้นส์ " และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการปกปิดข่าวเรื่อง 2nd Impact ด้วย รวมทั้งอาจจะเป็นผู้ที่สร้างเทวทูติขึ้นมาโจมตีด้วยซ้ำไป เนื่องจากพวกตนจะได้มีโอกาสในการผลิตหุ่นอีวานเกเลี่ยนต่อไป
ความ เชื่อของเซเล่นั้นเชื่อว่ามนุษยนั้นได้เวลาแล้วที่จะพัฒนาเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อมีชีวิตที่เป็นนิรันดร์จึงได้ร่วมมือกับเก็นโดในการตั้งแผนพัฒนา มนุษยชาติขึ้นมา
สำหรับชื่อ SEELE นั้นมาจากภาษาเยอรมัน แปลเป็นอังกฤษก็คือ " SOUL " ที่แปลว่าวิญญาณนั่นเอง
รายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับองค์กร[แก้]
อิคาริ เก็นโด
พ่อของอิคาริ ชินจิ ชื่อเดิม โรคุบุนงิ เก็นโด เป็นผู้บัญชาการสูงสุดขององค์การเนิร์ฟ หน่วยงานซึ่งทำตามแผนการลับที่ถูกกำหนดนโยบายมาโดยตรงจากองค์การเซเล่ องค์การซึ่งต้องการนำมนุษยชาติ ไปสู่ภาวะนิรันดร์ตามพันธะสัญญาในพระคัมภีร์ แต่โดยส่วนตัวลึกๆ แล้ว ผบ.อิคาริ ก็มีแผนในใจของตนเองที่จะทรยศต่อองค์การเซเล่เช่นกัน ชอบทำท่าทีเย็นชาใส่ชินจิ ไม่ใช่ว่าไม่ใส่ใจ แต่เป็นคนแสดงอารมณ์ไม่เก่งเท่าที่ควร เดิมที่มีนามสกุลว่าโรคุบุนงิ หลังจากการแต่งงานกับยูอิแล้ว จึงเปลี่ยนมาใช้นามสกุลตามภรรยา (คนส่วนหนึ่งในญี่ปุ่น ฝ่ายชายจะเปลี่ยนตามภรรยา)
คัตซึรางิ มิซาโตะ
คัตซึรางิ มิซาโตะ (ญี่ปุ่น: 葛城 ミサト Katsuragi Misato ?) สังกัดแผนก 1 กองแผนการรบ ฝ่ายเสนาธิการ ในฐานะผู้พัน ของกองบัญชาการเนิร์ฟ เป็นผู้ดูแลฝ่ายยุทธการของเนิร์ฟ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บังคับบัญชาของชินจิ และในทางปฏิบัติก็เป็นผู้ปกครองของชินจิอีกด้วย เธอมีหน้าที่สั่งการยามเกิดการสู้รบกับเหล่าเทวทูต เธอเป็นคนง่ายๆ ทำตัวตามสบาย แต่บางครั้งออกจะปล่อยตัวไปสักหน่อย และมีนิสัยค่อนข้างใจร้อน เคยเป็นคนรักกับคาจิ และเป็นคนเดียวที่รอดจากคณะสำรวจที่ขั้วโลกใต้ในเหตุการณ์ Second Impact ซึ่งในเรื่องจะเห็นว่ามิซาโตะมีแผลเป็นอยู่ที่ท้อง
ดร.อาคางิ ริตสึโกะ
นักวิทยาศาสตร์ผู้เก่งกาจ สังกัดฝ่ายเทคนิคที่ 1 หน่วยพัฒนากองบัญชาการเนิร์ฟ เป็นผู้รับผิดชอบการพัฒนาหุ่นอีวา เป็นลูกสาวของนาโอโกะผู้คิดค้นระบบเมไจ (Magi) เป็นผู้คอยซ่อมแซมและดูแลเมไจ ซึ่งในเมไจได้บรรจุสมองของนาโอโกะมารดาของเธอ เธอรู้ความลับของอีวาและองค์กรมากมาย เธอเป็นเพื่อนสนิทกับมิซาโตะ เป็นคนใจเย็น เงียบขรึมเรียบร้อย ซึ่งตรงข้ามกับมิซาโตะ
เรียวจิ คาจิ
เป็นเจ้าหน้าที่คนหนึ่งในองค์การเนิร์ฟ เป็นอดีตคนรักของมิซาโตะ เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจตราการทำงานของเนิร์ฟ และเจ้าหน้าที่สำรวจข้อมูล กระทรวงมหาดไทย สังกัดรัฐบาลญี่ปุ่นแต่แท้จริงแล้วเป็นสายลับของรัฐบาล ทำหน้าที่เป็นสายลับสองหน้า ให้กับทั้งรัฐบาลญี่ปุ่น และเนิร์ฟ เขาไม่ใช่คนเลว แต่กลับมีความเข้าใจชีวิตอย่างลึกซึ้ง เป็นคนที่มีบุคลิกทะเล้น เจ้าชู้ อ่อนโยน เศร้า และอบอุ่น รวมกัน เป็นตัวละครที่น่าสนใจคนหนึ่ง เป็นแบบอย่างของคนที่มีบุคลิกเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ ที่มนุษย์เราควรจะเป็น ท่ามกลางบุคลิกผู้ใหญ่ของตัวละครอื่นๆ ที่มีความบกพร่องปะปนอยู่
ฟุยุสึกิ โคโซ
เป็นรอง ผบ.เนิร์ฟ เป็นผู้ที่รู้เรื่องราวทั้งหมด ส่วนใหญ่จะอยู่กับเก็นโดตลอด เป็นผู้ร่วมเก็บงำความลับระหว่างองค์การเซเล่กับอิคาริเกนโด ในอดีตเคยเป็นอาจารย์สอนของอิคาริเกนโด รวมไปถึงสมาชิกในองค์การเซเล่อีกด้วย
อิบูกิ มายะ
เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคคอมพิวเตอร์ ในเนิร์ฟ นับถือ ริทซึโกะมาก
ชิเงรุ โอบะ
เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคคอมพิวเตอร์
เฮียวกะ มาโคโตะ
เป็นเจ้าหน้าที่เช่นเดียวกับมายะ คอยเป็นสายสืบให้กับมิซาโตะ เพราะแอบหลงรักมิซาโตะ
อิคาริ ยูอิ
แม่ของชินจิ เสียชีวิตไประหว่างการทดลองเดินครื่องอีวาหมายเลข 01 โดยสูญเสียสภาพร่างกายไปหลงเหลือแต่จิตวิญญาณใน Link Connect Liquid ของเหลวสำหรับเดินเครื่องหุ่น
เพื่อนร่วมชั้นเรียนในเนโอโตเกียวแห่งที่3[แก้]
ไอดะ เคนสุเกะ
เป็นเพื่อนร่วมชั้นของชินจิ มีความใฝ่ฝันที่จะได้ขับอีวานเกเลี่ยน
โฮรากิ ฮิคาริ
เป็นหัวหน้าชั้นของชินจิ สนิทกับอาสึกะ และแอบรักโทจิ
สถานที่[แก้]
Neo Tokyo-2[แก้]
เป็นสาขาย่อยของเนิร์ฟในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองมัตสึชิโร่ โดยเป็นสถานที่ที่ใช้ในการทดลองอีวา 03 และได้เกิดระเบิดไปเนื่องจากอีวา 03 ถูกเทวทูตเข้าสิงและอาละวาด
Neo Tokyo-3[แก้]
เป็นเมืองที่สร้างขึ้นเพื่อเตรียมรับการโจมตีจากเทวทูตโดยเฉพาะ ถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า " เมืองป้อมปราการ " ตั้งอยู่ที่ฮาโกเนะ โดยข้างใต้เมืองก็คือจีโอ ฟร้อนท์ที่ทำงานของเนิร์ฟนั่นเอง เมืองเนโอโตเกียวประกอบไปด้วยตึกต่างๆที่ใช้ในการรบกับเทวทูติ ตึกบางตึกสามารถเก็บลงไปใต้ดินได้ ซึ่งอาจจะเป็นตึกสำนักงานทางธุกิจของเอกชนที่ไม่เกี่ยวข้อง จะเหลือไว้แต่ตึกป้อมปราการ ( Armament Building ) เท่านั้น
Gehirn[แก้]
เป็นสถานีวิจัยค้นคว้าเก่าก่อนที่จะมาเป็นองค์การเนิร์ฟ โดยวิจัยในเรื่องแผนพัฒนามนุษยชาติ สมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งในตอนแรกคือ เก็นโด ,นาโอโกะ ,ฟุยุสึกิ ต่อมาเมื่อเมไจเสร็จสิ้น สถานีวิจัยนี้จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นองค์การเนิร์ฟในปี 2010
Graveyard of Evas[แก้]
สุสานของหุ่นอีวาที่ใช่ในการทดลอง อยู่ในเซ็ลทรัล ด้อกม่า ในอดีตสถานที่แห่งนี้เป็นที่ที่ใช้ในการทดลองและพัฒนาอีวานเกเลี่ยน รวมถึงระบบเมไจด้วย แต่หลังจากที่การทดลองซิงโครว์กับอีวาครั้งแรกของยูอิได้เกิดล้มเหลว สถานที่แห่งนี้ก็ถูกทิ้งร้างและเปลี่ยนสภาพกลายเป็นแค่ทิ้งขยะอีวาที่ล้ม เหลวเท่านั้น
ข้อมูลรายละเอียดในเนื้อเรื่อง[แก้]
ดูเพิ่มเติมที่ ข้อมูลอุปกรณ์และความหมายในเรื่องอีวานเกเลียน
แรงบันดาลใจ[แก้]
อีวานเกเลียน ตลอดเรื่องอัดแน่ไปด้วยการอ้างถึงหลักการต่างๆ ทั้งทางชีววิทยา การทหาร ศาสนา และจิตวิทยา ซึ่งเป็นการเดินตามแนวทางของการ์ตูนแอนิเมชันรุ่นพี่อีกหลายเรื่อง ตัวอย่างเช่น เรือรบอวกาศยามาโตะ (ญี่ปุ่น: 宇宙戦艦ヤマト Uchū Senkan Yamato ?) ฮิเดอากิ อันโน นักเขียนของเรื่อง ได้แรงบันดาลใจหลายอย่างจากซิกมุนด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) นักจิตวิทยาผู้ยิ่งใหญ่ชาวออสเตรีย ทั้งจากประโยคที่ฟรอยด์เคยพูด ทฤษฎีจิตวิทยาเชิงวิเคราะห์ของฟรอยด์ เช่นเดียวกับ หลักการทางศาสนาและชีววิทยาที่อันโนะมักนำมาใช้เพื่อสื่อความหมายต่างๆ ในการ์ตูนของเขา ด้วยเหตุผลข้างนี้ ทำให้อันโนะมักถูกวิจารณ์ว่าเป็นพวกชอบขโมยความคิด หรือก็แค่งานที่มาจากความคิดของทีมงานเท่านั้น
ศาสนา[แก้]
สัญลักษณ์เชิงศาสนาที่ถูกใช้ใน อีวานเกเลียน ส่วนใหญ่นั้น ได้แรงบันดาลใจมาจากจูเดโอ-คริสเตียน หรือความเชื่อในศาสนาคริสต์ที่มารากฐานมาจากศาสนายิว สัญลักษณ์ศาสนาดังกล่าวถูกนำมาจากหลายศาสนา ได้แก่ ศาสนายิว ศาสนาคริสต์ นอซทิสซึม (ลัทธิเหตุผล) และ กับบะลาห์ (Kabbalah: ศาสตร์เร้นลับของชาวยิว)
ทสึรุมะคิ คะสุยะ (ญี่ปุ่น: 鶴巻 和哉 Tsurumaki Kazuya ?) ผู้ช่วยผู้กำกับ กล่าวว่า ในตอนแรก การ์ตูนเรื่องนี้ใช้สัญลักษณ์ทางศาสนาคริสต์แค่เพื่อให้แตกต่างจากการ์ตูนหุ่นยนต์สู้กันเรื่องอื่นๆ และไม่มีความหมายอะไรมากกว่านั้น แต่การใช้สัญลักษณ์นี้โดยผู้ที่ไม่รู้ความหมายก็กลับการเป็นจุดอ่อนได้เหมือนกัน
สัญลักษณ์ทางศาสนาใน อีวานเกเลียน สามารถตีความเบื้องต้นอย่างง่ายๆ ดังนี้
อาดัม และ อีฟ (เอวา) บอกถึงมนุษย์คู่แรกของโลก ตามพระธรรมปฐมกาล (Book of Genesis) ในคัมภีร์ของศาสนายิว และศาสนาคริสต์ โดยอีฟ เกิดมาจากซี่โครงของอาดัม เช่นเดียวกับในการ์ตูน ที่หุ่นยนต์อีวา (Eva) ทั้งหลาย มีต้นกำเนิดมาจากเทวทูต (Angel) ตนแรก คือ อดัม นั่นเอง
ไม้กางเขน เห็นได้บ่อย โดยเป็นรูปร่างของลำแสงระเบิดโดยเทวทูต (Angel) เหมือนลำแสงจากสรวงสวรรค์
เทวทูต (Angel) อาจจะหมายถึงเทวดาตามคติความเชื่อของศาสนาคริสต์ ตามพันธสัญญาเดิม รวมถึง ทูตสวรรค์ หรือผู้นำสารจากพระเจ้า ตามพันธสัญญาใหม่
อ้างอิง[แก้]
กระโดดขึ้น ↑ สารานุกรม Neon Genesis Evangelion
กระโดดขึ้น ↑ การคืนชีพมหากาพย์ การ์ตูน Sci-Fi ฟอร์มยักษ์ อีวานเกเลี่ยน: 2.0
กระโดดขึ้น ↑ http://web.archive.org/20090430185608/www.geocities.com/tat_jung/eva02.html
[ซ่อน] ด พ ก
อีวานเกเลียน มหาสงครามวันพิพากษา
ตัวละครหลัก
อิคาริ ชินจิ อายานามิ เรย์ โซริว อาสึกะ แรงก์เรย์ ซุซุฮารา โทจิ นางิสะ คาโอรุ คัตสึรางิ มิซาโตะ อาคางิ ริตสึโกะ อิคาริ เก็นโด เรียวจิ คาจิ อิคาริ ยูอิ
ฉบับโทรทัศน์
ภาคหลัก
ฉบับภาพยนตร์
จุติภาค ปัจฉิมภาค รีบิวด์ออฟอีวานเกเลียน (1.0 กำเนิดใหม่วันพิพากษา 2.0 อุบัติการณ์วันล้างโลก)
ข้อมูลอื่น ๆ
ตัวละคร เทวทูต อุปกรณ์ สถานที่
โครงการ · หมวดหมู่ · สถานีย่อย
หมวดหมู่: การ์ตูนญี่ปุ่นอะนิเมะมังงะอีวานเกเลียนการ์ตูนญี่ปุ่นแนวโชเน็ง
ผ่าพิภพไททัน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ผ่าพิภพไททัน
ชื่อไทย ผ่าพิภพไททัน
ชื่อญี่ปุ่น 進撃の巨人
(โรมะจิ: Shingeki no Kyojin)
ชื่ออังกฤษ Attack on Titan
ประเภท โชเน็ง
แนว ต่อสู้, แฟนตาซี, โศกนาฏกรรม, ดิสโทเปีย
มังงะ
เรื่อง อิซะยะมะ ฮะจิเมะ
พิมพ์ สำนักพิมพ์โคดันชะ
พิมพ์ในภาษาอื่น วิบูลย์กิจ
นิตยสาร Bessatsu Shōnen
เผยแพร่ พ.ศ. 2552 – ปัจจุบัน
รวมเล่ม 10
อะนิเมะโทรทัศน์
กำกับ เทะสึโระ อะระกิ
เรื่อง ยะซุโกะ โคะบะยะชิ
ดนตรี ฮิโระยุกิ ซะวะโนะ
สร้าง Wit Studio
Production I.G (ร่วมผลิต)
เครือข่าย MBS, Tokyo MX, FBS, TOS, HTB, TVA, BS11
เผยแพร่ 6 เมษายน พ.ศ. 2556 – ปัจจุบัน
ตอน 25
มังงะ
Shingeki! Kyojin Chūgakkō
เรื่อง อิซะยะมะ ฮะจิเมะ
ซะกิ นะกะงะวะ
พิมพ์ สำนักพิมพ์โคดันชะ
นิตยสาร Bessatsu Shōnen
เผยแพร่ 9 เมษายน 2555 – ปัจจุบัน
รวมเล่ม 2
มังงะ
Shingeki no Kyojin: Before the Fall
เรื่อง ซะโตะชิ ชิกิ
พิมพ์ สำนักพิมพ์โคดันชะ
นิตยสาร Monthly Shōnen Sirius
เผยแพร่ 26 สิงหาคม 2556 – ปัจจุบัน
นวนิยาย
Attack on Titan: Before the Fall
ผู้แต่งเรื่อง เรียว ซุซุกะเซะ
ตีพิมพ์ สำนักพิมพ์โคดันชะ
นิตยสาร Dengeki Hobby
ตีพิมพ์เมื่อ 2 ธันวาคม 2554 – ปัจจุบัน
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมการ์ตูนญี่ปุ่น
ผ่าพิภพไททัน (ญี่ปุ่น: 進撃の巨人 Shingeki no Kyojin, อังกฤษ: Attack on Titan) เป็นชุดมังงะภาษาญี่ปุ่น ผลงานการแต่งเรื่องและวาดภาพประกอบของ อิซะยะมะ ฮะจิเมะ ซึ่งเล่าเรื่อง
เนื้อหา [ซ่อน]
1 เนื้อเรื่อง
1.1 องค์กรหลัก
1.2 ศัพท์เฉพาะในเรื่อง
2 ตัวละครหลัก
3 ทหารฝึกหัดรุ่นที่ 104
4 ตัวละครอื่นๆ
5 แหล่งข้อมูลอื่น
เนื้อเรื่อง[แก้]
หลายร้อยปีก่อน มนุษย์เกือบสูญพันธ์เพราะเผ่าพันธุ์ไททันที่ปรากฏตัวและกินมนุษย์จำนวนมาก จนมนุษย์ที่เหลือรอดเพียงน้อยนิดได้ก่อสร้างกำแพงขนาดใหญ่กว่าพวกไททันมาคุ้มครองเมืองตัวเอง ซึ่งพวกไททันที่สูงเพียง 3 - 15 เมตร ไม่สามารถผ่านกำแพงที่สูงร่วม 50 เมตรเข้ามาได้ วันหนึ่งหลังจากผ่านมานานร่วมศตวรรษ ก็มีไททันที่สูงใหญ่กว่ากำแพงและสูงถึง60เมตรและไททันเกราะมาทำลายกำแพงให้ไททันตนอื่นบุกเข้าเมืองชิกันชินะ และไล่กินประชากรในเมือง ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งต้องหนีไปกำแพงชั้นในด้วยความโกลาหล และเกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ “เอเลน เจเกอร์” ผู้ที่ฝันจะได้เป็นทหารในกองทัพ ในวันที่เกิดเหตุการณ์นั้น เขาได้อยู่ในเหตุการณ์ และได้เห็นแม่ของตนถูกพวกไททันกินต่อหน้าเขาโดยที่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ ถึงจะมีชีวิตรอดมาได้ แต่ก็ทำให้เขาเริ่มตระหนักถึงความอ่อนแอของมนุษย์ที่พ่ายแพ้ต่อพวกไททัน และขอสาบานว่าจะกำจัดไททันทุกตนเพื่อแก้แค้นให้เหล่ามนุษยชาติ หลังจากนั้นเขาและพี่สาวบุญธรรม “มิคาสะ อัคเคอร์แมน” ได้เข้าร่วมกองทัพและฝึกฝนวิชาการต่อสู้ จนเข้าร่วมกองทัพและเตรียมรับมือต่อกรกับพวกไททันที่ครองผืนดินที่เคยเป็นของมนุษย์มาก่อน อีก5ปีต่อมาไททัน60เมตรได้มาทำลายกำแพงเขตทรอสต์และทำให้ไททันบุกเข้ามาอีกครั้ง
องค์กรหลัก[แก้]
ทหารประจำการ
ทหารที่มีหน้าที่หลักคือการปกป้องเมือง ทำงานเพื่อเสริมสร้างผนังแต่ในยามสงครามต้องเสี่ยงชีวิตเป็นแนวหน้าต่อสู้
กองทหารฝึกหัด
ทหารรุ่นใหม่ที่ฝึกอบรมเพื่อที่จะได้รับมอบหมายให้มารับหน้าที่ต่างๆ โดยสามารถเลือกที่จะเข้าในประเภทไหนก็ได้ แบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม
1.กองกำลังรักษาการณ์ : มีหน้าที่คอยปกป้องเมืองและเสริมความแข็งแกร่งให้กำแพงเมือง
2.กองกำลังสำรวจ : มีหน้าที่พร้อมที่จะเสี่ยงชีวิต เพื่อสู้กับไททันนอกกำแพง
3.กองกำลังสารวัตรตำรวจ : มีหน้าที่ดูแลประชาชนและรับคำสั่งจากพระราชา
ศัพท์เฉพาะในเรื่อง[แก้]
ไททัน
สิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นในการทดลองของคนในอดีตเพื่อใช้ทำสงครามแย่งชิงดินแดน ปัจจุบันได้แพร่เชื่อไปที่ต่างๆ
กำแพง
เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อปกป้องไม่ให้พวกไททันบุกรุกเข้ามา กำแพงแบ่งออกเป็น 3 ชั้น ชั้นนอกสุดเรียกว่า Wall Maria (กำแพงมาเรีย) ส่วนชั้นกลางเรียกว่า Wall Rose (กำแพงโรเซ่) และ ชั้นในสุดเรียกว่า Wall Sina (กำแพงซีน่า)
ปืนใหญ่ประจำกำแพง
อาวุธหลักในการกำจัดพวกไททันที่มีมาก่อนจะมีอุปกรณ์พกพาสามมิติ ขาดความคล่องตัวและทำสงครามภาคพื้นดินนั้นเป็นเรื่องยากมากจึงมีไว้ป้องกันพวกไททัน
อุปกรณ์เคลื่อนย้าย 3 มิติ
อุปกรณ์ที่ช่วยให้มนุษย์สามารถเคลื่อนไหวราวกับเหาะได้และมีความเร็วสูง ภายในประกอบด้วยลวดสลิง สมอและที่เก็บก๊าซ สิ่งทีขาดไม่ได้ คือ อาวุธที่มีไว้สำหรับต่อสู้กับพวกไททันประกอบด้วยดาบที่มีความยืดหยุ่น ทนทานและคมกริบจนสามารถกำจัดพวกไททันได้
ตัวละครหลัก[แก้]
เอเลน เจเกอร์ (エレン・イェーガー Eren Jaeger)
ให้เสียงโดย : ยูกิ คาจิ
เด็กหนุ่มผู้มีนิสัยมุทะลุ เลือดร้อน รักพวกพ้องและความยุติธรรม ในตอนแรกเขาไม่รู้วิชาการต่อสู้อะไรเลย แต่ด้วยความพยายามและความบ้าบิ่นของตัวเอง ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 5 ในหมู่ทหารฝึกหัดหลังจากจบการศึกษาแล้ว เป็นทหารฝึกหัดรุ่นที่ 104 และเป็นไททันได้ขณะยังไม่รู้เลยว่าเขากลายเป็นไททันได้อย่างไร
มิคาสะ อัคเคอร์แมน (ミカサ・アッカーマン Mikasa Ackerman)
ให้เสียงโดย : ยูอิ อิชิคาว่า
เด็กสาวพูดน้อย นิสัยนิ่ง ๆ จนดูเหมือนคนเย็นชา เธอเป็นลูกสาวบุญธรรมของครอบครัวเจเกอร์ จึงอาศัยอยู่ด้วยกันกับเอเลนและตั้งใจว่าจะต้องปกป้องเขาไว้ให้ได้ ส่วนด้านการต่อสู้ เธออยู่ในอันดับ 1 ของทหารฝึกหัดรุ่นเดียวกัน และได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะ เป็นทหารฝึกหัดรุ่นที่104
อาร์มิน อัลเรลโต (アルミン・アルレルト Armin Arlerto)
ให้เสียงโดย : มารินะ อิโนะอุเอะ
เด็กหนุ่มเพื่อนสมัยเด็กของเอเลนและมิคาสะ ถึงแม้ร่างกายจะดูอ่อนแอ แต่เขาสามารถอ่านสถานการณ์รอบตัวและสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมรอบตัว ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม มีความสามารถในการตัดสินใจและเจรจา เป็นทหารฝึกหัดรุ่นที่104
ทหารฝึกหัดรุ่นที่ 104[แก้]
ไรเนอร์ บราวน์ (ライナー・ブラウン Reiner Braun)
ให้เสียงโดย : โยชิมาสะ โฮโซยะ
อันดับ 2 ของทหารฝึกหัดรุ่น104 เขาเป็นคนเก่งที่มีความเข้มแข็งทั้งทางร่างกายรวมถึงจิตใจด้วยจนได้รับความเชื่อใจและไว้วางใจจากพวกพ้องเป็นอย่างมาก สามารถแปลงร่างเป็นไททันเกราะที่แข็งแกร่งได้ อยู่ในเหตุการณ์การทำลาย Wall maria (วอลมาเรีย) เขตชิกันชินะ ตอนเริ่มเรื่องด้วย
เบลทรูท ฮูเวอร์ (ベルトルト・フーバー Bertolt Hoover)
ให้เสียงโดย : โทโมฮิสะ ฮาชิสุเมะ
อันดับ 3 ของทหารฝึกหัดรุ่น104 มีความเชี่ยวชาญในการต่อสู้ได้หลากหลายรูปแบบ แต่ขาดความมั่นใจในตนเอง สามารถแปลงร่างเป็นไททันสูง 60 เมตรได้ อยู่ในเหตุการณ์ทำลาย Wall maria (วอลมาเรีย) เขตชิกันชินะ ตอนเริ่มเรื่องด้วย
แอนนี่ เลออนฮาร์ท (アニ・レオンハート Annie Leonhart)
ให้เสียงโดย : ยู ชิมามูระ
อันดับ 4 ของทหารฝึกหัดรุ่น104 เธอมีใบหน้าที่ดูจริงจังจึงดูน่ากลัว และดูเบื่อโลกอยู่ตลอดเวลา (ยกเว้นตอนแสดงศิลปะป้องกันตัว) มีทักษะการต่อสู้ที่โดดเด่น แต่เธอนั้นเป็นคนที่โดดเดี่ยว จึงทำงานเป็นทีมไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ตัวจริงคือ ไททันผู้หญิง ปัจจุบันได้ถูกผลึกอยู่ในคริสตัล
แจน คริสไตน์ (ジャン・キルシュタイン Jean Kirstein)
ให้เสียงโดย : คิโชว ทานิยามะ
อันดับ 6 ของทหารฝึกหัดรุ่น104 เขาเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายเกี่ยวกับสงครามกับไททัน แต่ด้วยความที่มีนิสัยเที่ยงตรงมั่นใจในตนเองจึงมักมีเรื่องได้ง่าย ๆ เขามักอิจฉาเอเลนที่สนิทสนมกับมิคาสะ ความจริงแลัวเขาไม่อยากฆ่าคนเลย
มาร์โก้ บ็อท (マルコ・ボット Marco Bott)
ให้เสียงโดย : โอมะ ชู
อันดับ 7 ทหารฝึกหัดรุ่น 104 เป็นคนที่มักจะเข้าใจ และใส่ใจผู้อื่น สนิทกับแจน เขาฝันที่จะเป็นสารวัตรตำรวจ เพื่อที่จะทำงานให้กับราชวงศ์ แต่เขาเสียชีวิตก่อนวันเลือกเข้าสังกัดกองทหาร โดยแจนได้ตรวจพบศพของเขา หลังจากที่ไททั่นสำรอกเขาออกมา
โคนี่ สปริงเกอร์ (コニー・スプリンガー Conny Springer)
ให้เสียงโดย : ชิโมโนะ ฮิโระ
อันดับ 8 ทหารฝึกหัดรุ่น 104 คนที่ค่อนข้างซื่อ ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์เก่ง แต่หัวไม่ดีและไหวพริบยังไม่ค่อยดีนัก
ชาช่า เบลาส์ (サーシャ・ブラウズ Sasha Blowse)
ให้เสียงโดย : โคบายาชิ ยู
อันดับ 9 ทหารฝึกหัดรุ่น 104 อดีตโจรสาวที่สนใจแต่ของกิน ชอบแอบไปขโมยอาหาร ไม่ชอบทำอะไรเป็นระบบและไม่ค่อยเคารพครูฝึก ไม่เหมาะจะเป็นทหาร แต่ลางสังหรณ์แม่นยำ และลึกๆแลัวก็มีฝีมือดีอย่างคาดไม่ถึง
คริสต้า เรนส์ (クリスタ・レンツ Christa Renz)
ให้เสียงโดย : โคบายาชิ ยู
อันดับ 10 ทหารฝึกหัดรุ่น 104 หญิงสาวบอบบาง ร่างเล็ก ถึงไม่เก่งเหมือนคนอื่น แต่มีจิตใจอ่อนโยน เป็นเพื่อนสนิทกับยูมิล และเคยช่วยเหลือชาช่า ตอนครูฝึกลงโทษ
ยูมิล (ユミル Ymir)
ให้เสียงโดย : ฟูจิ ซากี
เพื่อนสนิทกับคริสตั ถึงจะไม่ได้ติด Top 10 ของทหารรุ่นที่ 104 แต่สามารถแปลงร่างเป็นไททันได้ ร่างจริงคือไททั้นอัปลักษณ์
ตัวละครอื่นๆ[แก้]
ฮานเนส (ハンネス Hannes)
ให้เสียงโดย : ฟูจิวาระ เคย์จิ
ทหารที่เคยช่วยเอเลนไว้ตอนที่ไททันบุกเมืองและคอยดูแลพวกเอเลน ตำแหน่งหัวหน้าลาดตระเวนเขตทรอส ปัจจุบันเสียชีวิต ตอนที่ช่วยเอเลนที่โดนไททันเกราะ กับไททัน60เมตรจับตัวไป และโดนกินเป็นอาหารให้ไททันที่ฆ่าแม่ของเอเลนอีกด้วย
รีไว (リヴァイ・アッカーマン Levi )
ให้เสียงโดย : ฮิโรชิ คามิยะ
หัวหน้าหน่วยหัวกะทิที่เอเลนสังกัดอยู่กล่าวกันว่าเขาเป็นผู้มี,มือมากที่สุดในบรรดาทหารทั้งหมดและหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากสงครามกวาดล้างไททันเมื่อปีก่อน ในอดีตเคยเป็นอันธพาลในเมืองใต้ดินในอดีตเสียพรรคพวกไปทั้งหมดเนื่องจากตัดสินใจผิดพลาด มีลูกน้องได้แก่ เฟอร์แลน เอลิซาเบธ เอ็ด กันเตอร์ ออสเตรเลีย เพตร้า มีเพื่อนสนิทไมค์ เอลวิน สมิธ ฮันจิ โซเอ
เอลวิน สมิธ (エルヴィン・スミス Erwin Smith)
ให้เสียงโดย : ไดสุเกะ โอโน
ผบ.ทีมสำรวจเป็นคนฉลาดหลักแหลมมากและตัดสินอย่างเด็ดขาดมากอย่างเช่น การลอบสังหารราชา หรือในการต่อกรกับไททันหญิงที่ทำได้ยากมาก
ฮันจิ โซเอ (ハンジ・ゾエ Hange Zoë)
ให้เสียงโดย : โรมิ พาร์ค
หัวหน้าหน่วยวิจัยของทีมสำรวจเป็นคนที่บ้าต่อกว่าการวิจัยไททันมากและเป็นคนเลือดเย็นเคยเกือบโดนไททันกินมาเพราะการวิจัยหลายรอบเวลาสติแตกจะคลั่งแบบสุดๆ
ฟาลกอน(หัวหน้าในสมัยนั้น)เซรามิ อลิซาเบธ เฟอร์แลน ฮันจิ เอลวิน ไมค์
4 คนที่เป็นลูกน้องของรีไว ได้แก่ เพตร้า เอ็ด ออสโอ กันเบอร์
ลูกน้องของรีไวรุ่นพี่ของเอเลน เสียชีวิตทั้งหมดโดยฝืมือของแอนนี เลออนฮาร์ท
นิฟ่า
หน่วยข่าวกรองของทีมสำรวจรับหน้าที่การตรวจสอบข้อมูลเสียชีวิตจากการโจมตีของเคนนีย๋
นานาบา
หัวหน้ายูมิลกับคริสต้ามีฝีมือในการสู้กับไททันมากและเป็นหนึ่งในเหล่าผู้รอดชีวิตเมื่อห้าปีก่อนสถานะปัจจุบันเสียชีวิตในเหตุการณ์ปราสาทอุทรการ์ด
เกเกอร์
เพื่อนสนิทของนานาบาหนึ่งในผู้รอดชีวิตเมื่อห้าปีก่อนเป็นคนชอบดื่มไวน์ถึงขนาดจะตายก็ไม่สนขอแค่ได้ดื่มไวน์เป็นคนใจร้อน
สถานะปัจจุบันเสียชีวิตในเหตุการณ์เดียวกับนานาบา(แบบแก็สหมดเลยทิ้งตัวลงมาเพื่อดื่มไวน์ก่อนตายสุดท้ายยูมิลแอบเอาไปดื่มตอนเกเกอรหมดสติเลยแต่ตายแบบอนาถสุดๆ)
ชิสุและเนม
หัวหน้าหน่วยของอาร์มินและรองหัวหน้าหน่วยรับหน้าที่ในการสอนการจัดกระบวนทัพเสียชีวิตจากการโจมตีของแอนนี เลออนฮาร์ท
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ (มังงะ) (ญี่ปุ่น)
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ (อะนิเมะ) (ญี่ปุ่น)
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ (ภาพยนตร์) (ญี่ปุ่น)
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ (Social Game) (ญี่ปุ่น)
ผ่าพิภพไททัน (มังงะ) ที่เครือข่ายข่าวอะนิเมะ
ผ่าพิภพไททัน (อะนิเมะ) ที่เครือข่ายข่าวอะนิเมะ
บทความเกี่ยวกับการ์ตูนญี่ปุ่นนี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยเพิ่มข้อมูล ดูเพิ่มที่ สถานีย่อย:การ์ตูนญี่ปุ่น
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)







